ประเด็นคือ – “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร แต่มีความผิดในประเทศไทย แต่ต้องรับโทษในประเทศไทย
วันที่ 2 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมอัยการจังหวัดชลบุรี ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันสอบปากคำเพิ่ม นางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต กับพยานอีก 2 ปาก ที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นางสาวรสสุคนธ์ กองเกตุ หรือ ครูเงาะ ความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, รีดทรัพย์, หมิ่นประมาท และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานเพิ่มของการประกอบสำนวน ที่จะเป็นตามขบวนการว่าจะมีการฟ้องหรือไม่ฟ้อง
โดยทางครูอ้อย ได้เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ถึงคดีที่ครูเงาะ ทำให้เกิดความเสียหาย และถูกกรรโชกทรัพย์ 11 ล้านบาท เพื่อให้สำนวนการสอบสวนเดินหน้าต่อ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้คิดโกรธครูเงาะซึ่งเป็นลูกศิษย์ ยังคงความปรารถนาดีอยู่เหมือนเดิม
ด้านนายชิงชัง โชติแสง อัยการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำหรับการที่ครูอ้อยได้เดินทางมาให้ปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี แทนที่จะเดินทางไปสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง จังหวัดชลบุรีนั้น เนื่องจากคดีนี้ถือเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร แต่มีความผิดในประไทย ต้องรับโทษในประเทศไทย เพราะเว็บไซต์ที่เข้าหมิ่นประมาท มีการจดทะเบียนต่างประเทศ ดังนั้นผู้ที่มีแนวทางสอบสวนอัยการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทางอัยการสูงสุดจึงได้มีการมอบหมายให้ทางผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบ่อทอง ส่งพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี โดยที่ทางครูอ้อย ได้มีการเปรยขอความเป็นธรรม โดยที่ตนได้บอกไปจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย ส่วนครูเงาะ คาดว่าอีกสองสัปดาห์ก็จะเรียกมาสอบสวนเช่นกัน