ควรรู้! เมื่อผูกบัตร Rabbit กับ LINE Pay

ผูกบัตร Rabbit กับ LINE Pay ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง?

✅ เติมเงินออนไลน์ไม่ต้องต่อคิว
✅ ใช้ขึ้น BRT ได้ แต่ต้องเติมเงินผ่านช่องจำหน่ายตั๋วของ BRT
❌ ยังใช้ซื้อของตามร้านค้าไม่ได้ ต้องรออัพเกรดเครื่องอ่านบัตรภายในปีนี้

หลังจากที่รู้ว่า ผู้ใช้งานสามารถผูกบัตร Rabbit กับแอพพลิเคชั่น LINE Pay ได้แล้ว หลายคนก็ดีใจเพราะคิดว่าต่อไปนี้จะไม่ต้องต่อแถวแลกเหรียญ ซื้อเที่ยว หรือเติมเงิน ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานี BTS อีก แต่ผ่านไปแค่ 1 วัน บูธ LINE Pay ซึ่งให้บริการผูกบัตรบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 5 แห่ง (อนุสาวรีย์ชัยฯ เพลินจิต อโศก ศาลาแดง ช่องนนทรี) กลับหยุดให้บริการชั่วคราวด้วยเหตุขัดข้องทางเทคนิค
ฝั่งผู้โดยสารที่ผูกบัตร Rabbit กับแอพฯ และทดลองใช้งานแล้ว ระบุว่า ไม่สามารถใช้บัตรซื้อของตามร้านค้าต่างๆ ได้เหมือนเดิม ใช้ขึ้น BRT ไม่ได้ แถมพอจะลบบัตรออกจากแอพฯ ก็นำบัตรกลับมาใช้งานไม่ได้ จึงตั้งคำถามว่า “การผูกบัตรกับแอพฯ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกขึ้นจริงไหม”

วันนี้ทีมข่าวเวิร์คพอยท์เลยอยากพาผู้อ่านไปสำรวจดูว่า เมื่อผูกบัตร Rabbit กับแอพฯ LINE Pay แล้ว บัตรนั้นสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง

✅ เติมเงินออนไลน์ไม่ต้องเข้าคิว
เมื่อผูกบัตร Rabbit กับแอพพลิเคชั่น LINE Pay แล้ว ผู้โดยสารสามารถเติมเงินค่าโดยสารผ่านบัญชีธนาคาร, Mobile Banking, ATM, บัตรเดบิต, บัตรเครดิต รวมถึงซื้อเที่ยวเดินทางผ่านแอพฯ ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปต่อแถวยาวเหยียดซื้อตั๋วที่สถานี ทำให้ประหยัดเวลาเดินทาง

✅ เช็กยอดเงินและเที่ยวคงเหลือผ่านแอพฯ ได้ทันที
หลังจากเติมเงินหรือซื้อเที่ยวเดินทางผ่าน Rabbit LINE Pay ค่าโดยสารและเที่ยวเดินทางจะถูกตัดผ่านแอพพลิเคชั่น โดยที่ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบยอดเงินและเที่ยวคงเหลือได้ทันที นอกจากนั้นยังสามารถเช็กประวัติการเดินทาง และมีระบบแจ้งเตือนเมื่อยอดเงินคงเหลือในแอพฯ ไม่พอเดินทาง

❌ ยังใช้ซื้อของตามร้านค้าไม่ได้ ต้องรออัพเกรดเครื่องอ่านบัตร
บัตร Rabbit ที่ถูกผูกเข้ากับ LINE Pay แล้ว เงินที่ผู้ใช้เติมเข้าไปจะอยู่ในแอพพลิเคชั่น ดังนั้น เมื่อนำบัตรไปสแกนกับเครื่องอ่านบัตรของร้านค้า ระบบจึงหาเงินในบัตรไม่เจอ ทำให้ไม่สามารถใช้บัตร Rabbit ซื้อสินค้าได้เหมือนเดิม แต่ปัญหานี้อยู่ระหว่างการแก้ไข โดย Rabbit ชี้แจงว่ากำลังรีบดำเนินการ ‘อัพเกรด’ เครื่องอ่านบัตรที่ร้านค้าใหม่ ให้สามารถตัดเงินผ่านระบบของ Line Pay ได้ด้วย คาดว่าผู้ใช้จะสามารถใช้บัตรซื้อสินค้าได้ตามปกติภายในสิ้นปี

✅ ระงับการใช้งานชั่วคราวได้ ถ้าทำบัตรหาย
ในกรณีที่ทำบัตรหาย เจ้าของบัตรสามารถกดระงับการใช้งานได้ทันทีบนแอพพลิเคชั่น ทำให้คนอื่นที่อาจเก็บบัตรใบนั้นไปไม่สามารถใช้ค่าโดยสารหรือเที่ยวเดินทางที่เจ้าของบัตรเติมเอาไว้ได้ และเมื่อไปออกบัตรใหม่ เงินหรือเที่ยวโดยสารจะยังคงอยู่ในแอพฯ ตามเดิม

✅ ยังใช้ขึ้น BRT ได้ แต่ต้องเติมเงินผ่านช่องจำหน่ายตั๋วของ BRT
Rabbit ชี้แจงว่าบัตรที่ผูกกับแอพพลิเคชั่นแล้ว ยังสามารถใช้ขึ้น BRT ได้เหมือนเดิม แต่ผู้โดยสารต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานี BRT ก่อน ซึ่งค่าโดยสาร BRT จะถูกตัดจากเงินที่อยู่ในบัตร เป็นเงินคนละส่วนกับที่อยู่ในแอพฯ ต่างกับเวลาขึ้น BTS เครื่องสแกนบัตรจะตัดเงินจากแอพฯ

✅ รับสิทธิประโยชน์จาก Rabbit Rewards เหมือนเดิม
สำหรับผู้ใช้ที่เคยสมัคร Rabbit Rewards ไว้แล้ว ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์จาก Rabbit Rewards ได้เหมือนเดิม เพียงแต่ต้องเข้าไปในแอพฯ แล้วผูก Rabbit Rewards กับ Rabbit LINE Pay ก่อน

✅ ลบบัตรออกจาก App แล้ว ยังเอาบัตรกลับมาใช้งานปกติได้
ในกรณีที่ผู้ใช้ยกเลิกการผูกบัตร Rabbit กับแอพพลิเคชั่น (ลบบัตรออก) สามารถนำบัตรใบเดิมกลับมาใช้ขึ้น BTS หรือซื้อสินค้าตามร้านต่างๆ ได้ปกติ แต่ต้องไปแจ้งยกเลิกการผูกบัตรที่บูธ LINE Pay บนสถานี BTS หลังลบบัตรออกจากแอพฯ ด้วย ถึงจะสามารถใช้งานบัตรได้อีกครั้ง

❌ บัตรที่เคยลบออกจาก App เอาไปผูกบัญชีอื่นไม่ได้
เมื่อผู้ใช้ลบบัตร Rabbit ออกจากแอพฯ LINE Pay ที่ลงทะเบียนไว้ด้วยชื่อบัญชีหนึ่ง จะไม่สามารถนำบัตรใบนั้นไปผูกกับ LINE ในชื่อบัญชีอื่นได้ เช่น ถ้าเรายกเลิกบัตรจาก LINE Pay ของตนเอง จะยกบัตรใบนั้นให้เพื่อนไปผูกกับ LINE Pay ของเพื่อนไม่ได้ โดย Rabbit ระบุว่าที่เป็นเช่นนี้ เพราะต้องรักษาความปลอดภัยให้ผู้ใช้

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ workpointnews.com

Facebook / facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / instagram.com/workpointnews/

Twitter / twitter.com/WorkpointShorts