
เหตุการณ์ไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นในเวลาที่เราไม่ทันตั้งตัว แต่อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุให้ต้องประสบ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “สติ”
หากยังจำเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์ตกจากลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางกะปิ จนทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิต และสันนิษฐานว่าเป็นเพราะ ‘คันเร่งค้าง’ กันได้ ‘ทีมข่าวเวิร์คพอยท์’ ก็อยากให้ทุกท่านที่ใช้รถได้ย้ำเตือนข้อควรระวังกันอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เมื่อเกิดเหตุ “คันเร่งค้าง” อย่าตกใจ !! แต่ขอให้ “ตั้งสติ” ให้ดี แล้วทำตาม 3 ขั้นตอนสำคัญนี้ เพื่อให้คุณ “รอดตาย” ในแบบที่ถูกต้องและปลอดภัย

1. เข้าเกียร์ว่างทันที
โดยผลักเกียร์ไปที่เกียร์ N อย่างเร็วที่สุด ไม่ต้องนึกถึงว่ารอบสูงหรืออย่างไร เพราะการเข้าเกียร์ว่างจะช่วยชะลอความเร็วได้ หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาต้องเหยียบคลัตช์เปลี่ยนไปเกียร์ว่าง

2. เหยียบเบรก
หลังจากเข้าเกียร์ว่างแล้ว ให้คุณประคองพวงมาลัยรถให้ดี ค่อยๆ เหยียบเบรกแล้วปล่อย เพื่อชะลอความเร็วไปเรื่อยๆ แต่หากเป็นรถที่มีระบบเบรก ABS ให้เหยียบเบรกค้างไว้ แล้วพยายามหาที่จอดที่ปลอดภัย

3. อย่าดับเครื่องเด็ดขาด !
ข้อนี้พึงระวังให้มากที่สุด เพราะเมื่อสติหลุด คุณอาจเผลอดับเครื่อง ต้องทำความเข้าใจว่า หากดับเครื่องจะเบรกไม่ได้ และหักพวงมาลัยไม่ได้ ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเมื่อพวงมาลัยล็อก แถมยังเหยียบเบรกไม่ลง อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ !!

คำเตือน !!
– มีผู้ใช้รถบางท่านที่อาจตกใจและเผลอดับเครื่อง ก็ขอให้พึงระวังไว้ว่า ห้ามถอดกุญแจหรือบิดไปที่ตำแหน่งล็อก เพราะพวงมาลัยจะล็อก ระบบช่วยเหลือต่างๆ จะไม่ทำงาน ซึ่งจะทำให้การควบคุมรถทำได้อยากขึ้น
– หากเป็นรถที่ใช้ปุ่ม Start on/off ให้กดปุ่มแช่ไว้ 3 วินาที ห้ามกดแล้วปล่อย

เรียกได้ว่าหาก“คันเร่งค้าง” จำง่ายๆ แค่ “เข้าเกียร์ว่าง – เหยียบเบรก – อย่าดับเครื่อง” สิ่งสำคัญคือ “สติ” ขับรถด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท ดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขณะใช้รถ
แหล่งข้อมูล: safedrivereducation
ขอบคุณภาพ: boxzaracing, prosperinallthings, perfectionistautosound, gobdp, carmudi, Driver’s Ed Guru