ชุดพญาเสือ ตรวจยึดขายซากหนังเสือไฟ เสือดาว เสือลายเมฆ สัตว์ป่าคุ้มครองหายากเกือบ 50 ชิ้น ตัดขายผ่านเฟซบุ๊ก มูลค่าความเสียหาย 408,700 บาท ชี้นิยมทำตะกรุดหนังเสือป้องกันอันตราย เร่งแกะรอยหาที่มาของเสือและขบวนการค้า
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.62 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ รายงานเข้ามาว่า หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯ พญาเสือ) ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เจ้าหน้าที่ปกครอง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เข้าตรวจสอบขบวนการค้าซากสัตว์ป่าออนไลน์ ภายใน ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
จากกรณีมีบุคคลประกาศขายซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น หนังสัตว์ป่า เขี้ยวสัตว์ป่า กระโหลกสัตว์ป่า ในสื่อออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือจึงดำเนินการสืบสวน ขยายผลจนทราบถึงที่พักและจุดที่เก็บซากสัตว์ป่า และดำเนินการขอหมายศาลฯ เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ในวันนี้เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฏหมาย
เมื่อคณะพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ตามหมายค้นของศาลจังหวัดราชบุรี ให้ค้นบ้านเลขที่ 388/19 ม.1 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พบนายอดุลย์ ผู้ต้องหา แสดงตัวเป็นผู้อยู่อาศัยบ้านหลังดังกล่าว จึงดำเนินการขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ดังนี้
- ซากหนังเสือลายเมฆ จำนวน 23 ชิ้น (สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 185)
- ซากหนังเสือไฟ จำนวน 13 ชิ้น (สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 184)
- ซากหนังแมวดาว จำนวน 9 ชิ้น (สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 147)
- เศษซากหนังเสือลายเมฆ และเสือไฟ
- ซากเขาเก้งธรรมดา จำนวน 2 ชิ้น (สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 198)
ประเมินราคาค่าเสียหายสัตว์ป่าคุ้มครอง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 408,700 บาท
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจัดทำบันทึกตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองและจับกุมนายอดุลย์ ไปแจ้งความกล่าวโทษดำเนิคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีต่อไป