ยืนยันพักโทษ 3 อดีตบิ๊กกรุงไทยตามหลักเกณฑ์

ราชทัณฑ์แจงอำนาจพักการลงโทษ 3 อดีตผู้บริหารกรุงไทยเป็นของรัฐมนตรียุติธรรม พิจารณาตาม 3 หลักเกณฑ์ คือ จำคุกแล้ว 1 ใน 3, อายุเกิน 70 และป่วยเรื้อรัง

จากกรณีที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงนามคำสั่งพักการลงโทษ 3 อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ที่ถูกจำคุกคดีทุจริตอนุมัติเงินกู้ให้บริษัทในเครือกฤษดานคร ประกอบด้วย ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา อดีตกรรมการบอร์ดกรุงไทย ทำให้ถูกจำคุกจริงประมาณ 3 ปี 4 เดือนนั้น

วันที่ 8 ม.ค. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า รัฐมนตรียุติธรรมได้อนุมัติพักการลงโทษเป็นกรณีพิเศษตามหลักเกณฑ์คือ ต้องรับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3, เป็นผู้ต้องขังสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และมีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยเรื้อรังระยะสุดท้ายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งครบกำหนดวันนี้ รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน 15 วัน หลังปล่อยตัวจากเรือนจำ ทั้ง 3 คนต้องรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2558 ศาลอาญาแนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุกทั้ง 3 คน คนละ 18 ปี ตามความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จากการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร ที่มีสถานะเป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษตามวโรกาสสำคัญจึงเหลือโทษจำคุก 9 ปี มีรายงานว่า ทั้ง 3 คนมีปัญหาสุขภาพ ร.ท.สุชายป่วยหนัก นายวิโรจน์ ตาเกือบมองไม่เห็น และนายมัชฌิมา ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา

สำหรับคดีนี้ มีจำเลยถูกฟ้อง 27 ราย ทั้งคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการสินเชื่อ กลุ่มกฤษฎามหานคร โดยมี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1