เชียงใหม่วิกฤต! หมอกควันบังดอยสุเทพ ผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มการเผา-ฉีดพ่นน้ำ

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ รับหมอกควันไฟป่าหนาทึบทั้งเมือง สั่งตรวจสอบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะรอบดอยสุเทพ ไม่พบการเผาหรือฮอตสปอต คาดกระแสลมพัดพามาจากต่างพื้นที่ สั่งคุมเข้มทุกทางทั้งคุมเผา ฉีดพ่นละอองน้ำ ป้องกันปัญหารุนแรง

วันที่ 13 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศของ จ.เชียงใหม่ ที่มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และเริ่มเข้าสู่ช่วงวิกฤตเป็นช่วงแรกของปีแล้ว พบว่าทั่วเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่อย่างดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองนั้นหายไปจากเมืองทันที หลังจากที่ถูกหมอกควันหนาทึบบดบังจนไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นที่รู้กันของชาวเชียงใหม่ว่าหากเป็นเช่นนี้ก็ถือว่าเข้าสู่ช่วงวิกฤตของปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองแล้ว ขณะที่เช้านี้ประชาชนที่ต้องออกมาทำกิจกรรมยามเช้าก็ต้องหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ป้องกันฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์

โดยเช้าวันนี้ ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กรายชั่วโมงเมื่อเวลา 8.00 น. พบว่า ค่า PM2.5 โดยมาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 93 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดงที่ส่งผลกระทบกับร่างกายโดยตรง ส่วนที่ ต.ศีภูมิ อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานีที่ตั้งอยู่กลางเมืองวัดได้ 89 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีส้ม ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อร่างกาย

นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีนี้มีการใช้ผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นตัวชี้วัดและแจ้งเตือนสถานการณ์ จากเดิมที่ใช้ PM10 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ที่ใส่ใจป้องกันดูแลสุขภาพประชาชนมากขึ้น นอกจากนี้ ทาง จ.เชียงใหม่ มีความพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางในการที่จะป้องกันควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง และส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของประชาชน รวมทั้งผลกระทบต่างๆ โดยควบคุมการเผาป่า, การเผาพื้นเกษตร, การแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นปุ๋ยเพื่อเลี่ยงการเผา, การลาดตระเวนป่า, การตั้งรางวัลนำจับหรือแจ้งเบาะแสการลักลอบเผา และการประกาศช่วง 61 วันห้ามเผาเด็ดขาดของ จ.เชียงใหม่ ระหว่าง 1 มี.ค. 62 – 30 เม.ย. 62 รวมทั้งการใช้มาตรฐานเสริมด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้แต่ละท้องถิ่น สร้างหุ่นฟางจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร

ส่วนมาตรการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะ PM2.5 นั้น ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เตรียมลงนามในประกาศจังหวัดเพื่อสั่งการอย่างเป็นทางการให้มีการดำเนินการ ได้แก่ การสั่งการให้ท้องถิ่นทุกแห่งล้างทำความสะอาดถนน, การควบคุมตรวจสอบรถยนต์ที่ปล่อยควันดำและควันเสีย, การตรวจสอบควบคุมเขตก่อสร้างและโรงงานต่างๆ ในเรื่องการปล่อยมลพิษ, การให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง รวมทั้งทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง กำหนดจุดปล่อยหรือพ่นสเปรย์น้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ และการตรวจตราการห้ามเผาที่โล่งทุกชนิด ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่กำชับสั่งการอย่างไม่เป็นทางการไปก่อนหน้านี้แล้วกว่า 2 สัปดาห์ โดยคาดว่าด้วยการดำเนินการอย่างจริงจัง และพยายามอย่างเต็มที่น่าจะช่วยป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ได้อย่างดีที่สุด

สำหรับสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ (13 ก.พ.) ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟป่าหนาทึบ จนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้ตามปกตินั้น ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ยอมรับว่า สังเกตเห็นสภาพดังกล่าวด้วยตัวเองเช่นเดียวกัน และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อ.เมืองเชียงใหม่ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทุกหมู่บ้านในเขตอำเภอเมือง โดยเฉพาะพื้นที่รอบดอยสุเทพรัศมี 5 กิโลเมตร ตรวจสอบสาเหตุ ซึ่งเบื้องต้นไม่พบว่ามีจุดฮอตสปอตหรือการเผาแต่อย่างใด จึงคาดว่าสถานการณ์หมอกควันไฟป่าหนาทึบที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะมาจากกระแสลมที่พัดพาควันมาจากต่างพื้นที่ ไม่ใช่การเผาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม จะมีการดำเนินการมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดต่อเนื่องต่อไป