แมงมุมทารันทูล่าทอดอาจหายากขึ้นในกัมพูชา เนื่องจากป่าซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกมันกำลังถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
หลายคนเห็นแมงมุมยักษ์ทารันทูล่า ตัวใหญ่ๆ ขนเยอะๆ ก็สยองแล้ว แต่ไม่ใช่กับที่กัมพูชา เพราะแมงมุมทารันทูล่ากลายเป็นเมนูยอดฮิต ได้รับความนิยมจากคนในประเทศและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเมือง Skun จนได้รับขนานนามว่า “Spiderville” หรือหมู่บ้านแมงมุม

แต่ว่าขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาแมงมุมทารันทูล่าเริ่มขาดแคลนจากการลุกล้ำที่อยู่และการตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ทำให้พวกมันมีราคาสูงขึ้น
นาง Chea Voeun ผู้ค้าขายทารันทูล่าเล่าให้ฟังว่า “อปิง” (Aping) เมนูแมงมุมทอดได้รับความนิยมมากในกัมพูชา แต่ขณะนี้มีปัญหาขาดแคลนและกำลังกลายเป็นของหายาก
เธอขายแมลงมากว่า 20 ปี ต้องเข้าไปหาแมงมุมในป่า แต่ต้นไม้ในป่าถูกทำลายเนื่องจากนำพื้นที่ไปทำการเพาะปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์แทน ทำให้เธอและผู้ค้ารายอื่นต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง เพื่อจัดหาแมงมุมจากจังหวัดที่ห่างไกล ทำให้แมงมุมทารันทูล่ามีราคาสูงขึ้นถึง 1 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
นักท่องเที่ยวจากนานาประเทศเดินทางมายังกัมพูชาเพื่อลิ้มลองรสชาติของแมงมุมทารันทูล่าทอดที่หากินไม่ได้ในประเทศบ้านเกิด ซึ่งมักถูกนำไปแช่ในเกลือและกระเทียม จากนั้นก็นำไปทอดในกระทะน้ำมันร้อนๆ
แมงมุมทารันทูล่าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารกัมพูชามาหลายชั่วอายุคน ได้รับความนิยมตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 ยกย่องว่าเป็นยาชั้นดี ระบบการปกครองในอดีตทำให้คนทำงานหนักเกินกำลังและเกิดความหิวโหย มีประชาชน 1 ใน 4 เสียชีวิตจากความหิวโหย ทำให้สมัยนั้นต้องหาอาหารเพื่อประทังชีวิต ทั้งหนู จิ้กจก และแมงมุมทารันทูล่า จนหลังจากการล่มสลายของยุ่งเขมรแดง ทารันทูล่าก็กลายเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไปเสียแล้ว

แต่ว่าขณะนี้ป่าได้หายไปอย่างรวดเร็ว ประเทศกัมพูชามีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าที่เร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ข้อมูลของ NGO Fauna และ Flora International (FFI) ตั้งแต่ปี 2533 พื้นที่ป่าในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูญหายไปกว่า 20% ของพื้นที่ป่าทั้งหมด
นาย Tom Grey ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์และการพัฒนาระดับโลกของ Wildlife Alliance กล่าวว่า การสูญเสียที่ป่าถูกทำลาย ทำให้ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และยังเป็นการไล่แมงมุมออกจากบ้านของมัน
ที่มา In Cambodia, fears tarantula may go off the menu