
(แฟ้มภาพ)
ประเด็นคือ – กกต.เตรียมส่งความเห็นแย้ง กฎหมายลูก สส. และ ส.ว. ภายในวันศุกร์นี้ ด้าน กรธ. ตั้งอนุกรรมการฯพิจารณาว่าขัดเจตนารมณ์ของ รธน. หรือไม่
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.มีมติส่งความเห็นแย้งในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พรป.สส.) ใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง
มาตรา 48 ที่ระบุให้ผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองมีหมายเลขแตกต่างกันออกไปในแต่ละเขตเลือกตั้งอาจขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 224 ที่กำหนดให้ กกต. ควบคุมการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม เพราะการมีหมายเลขแตกต่างในแต่ละเขต ต้องมีกระบวนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ต้องกระจายการพิมพ์ไปยังที่ต่างๆ ทำให้เกิดโอกาสที่จะปลอมบัตรเลือกตั้งเพื่อทุจริตได้
มาตรา 73 การให้ผู้สมัครจัดมหรสพ อาจนำไปสู่การความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมืองเล็กและพรรคการเมืองใหญ่ อีกทั้งประชาชนจะให้ความสนใจเนื้อหาสาระนโยบายลดน้อยลง และสนใจเพียงแต่มหรสพ ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 224(2)
มาตรา 62 ที่ระบุกำหนดค่าใช้จ่ายการหาเสียงของผู้สมัครในแต่ละเขตให้มีจำนวนเท่ากัน ซึ่งเมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วจะทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ส่งผู้สมัครครบตามจำนวน มีโอกาสได้รับค่าใช้จ่ายหาเสียงน้อยกว่า
มาตรา 138 ที่ระบุให้ศาลฎีกามีอำนาจให้ใบเหลืองได้ ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ระบุให้ศาลมีอำนาจให้ใบแดงกับใบดำเท่านั้น และมาตรา 138 ที่ระบุให้ศาลฎีกาสามารถให้ใบดำกับผู้สมัคร เพื่อเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ศาลมีอำนาจออกได้ทั้งใบดำและแดง
ส่วนความเห็นแย้งกฎหมาย ส.ว. มี 1 ประเด็นคือ การจำกัดในศาลรัฐธรรมนูญให้ใบดำกับผู้สมัคร เช่นเดียวกับกฎหมาย ส.ส. แต่กรณีการแบ่งประเภทผู้สมัครคัดเลือก ส.ว. การแบ่งกลุ่มเข้ารับการคัดเลือก และวิธีการเลือกไขว้ทาง กกต. ไม่คัดค้านเพราะเห็นว่ากระบวนการและวิธีการยังไม่สามารถมีใครตอบได้ว่าวิธีใดเหมาะสมกว่ากัน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งจะทำความเห็นแย้งไปยัง สนช. ในวันที่ 9 ก.พ.นี้
ส่วนการขยายเวลาการบังคับใช้ กฎหมายลูก ส.ส. ออกไปอีก 90 วัน นายสมชัย ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับโรดแมปการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. สามารถใช้เวลาจัดการเลือกตั้งได้ 105 วัน หลังกฎหมายประกาศใช้ ส่วนอีก 45 วัน เป็นกระบวนการพิจารณาออกใบเหลืองใบแดง