กกต.แจงไม่ดองคดี “ธนาธร” จนรับรองผล 9 พ.ค.ไม่ทัน

กกต.ชี้แจงพิจารณาคดีถือหุ้นสื่อมวลชนของ “ธนาธร” ไปตามขั้นตอนไม่มีการจงใจดองเรื่องจนรับรองผลไม่ทันเปิดสภา ส่วนการเลือกตั้ง 6 หน่วย จากกรณี “บัตรเขย่ง” 21 เม.ย.นี้ ผู้ไม่ไปลงคะแนนจะเสียสิทธิ 5 ประการ

กรณีที่สื่อมวลชนบางแห่งรายงานข่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบกรณีการถือครองหุ้นสื่อมวลชนซึ่งจะทำให้ขาดคุณสมบัติในการสมัคร ส.ส. ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อย่างล่าช้า และอาจจะยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งของนายธนาธร ในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งกำหนดเป็นประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนั้น

วันที่ 18 เม.ย. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าวสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่า กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ตรวจสอบ สืบสวน หรือไต่สวน สอบหาข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยต้องเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงแสดงพยานหลักฐานให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ พร้อมระบุด้วยว่า จะดำเนินการตรวจสอบการถือครองหุ้นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และจะแจ้งผลให้ทราบในโอกาสอันใกล้นี้

นอกจากนี้ สำนักประชาสัมพันธ์ กกต. ยังย้ำถึงการให้มีการเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วยเลือกตั้ง ที่พบว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกับจำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน ในวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. นี้ ระหว่าง 08.00-17.00 น. ด้วยว่า ผู้มีสิทธิที่มีชื่อในหน่วยเลือกตั้งตามที่ระบุนี้ ถ้าไม่ไปลงคะแนนในวันอาทิตย์นี้จะเสียสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด (ยกเว้นผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตและไปเลือกเแล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค.62) โดย 6 หน่วยเลือกตั้งประกอบด้วย

จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 (2 หน่วยเลือกตั้ง)
-หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 5 ต.ปางหลวง อ.เกาะคา
-หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา

จ.ยโสธร เขตเลือกตั้งที่ 2 (หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย)

จ.เพชรบูรณ์ เขตเลือกตั้งที่ 1 (หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ)

จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 2 (หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม)

กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 13 (หน่วยเลือกตั้ง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ)

สำหรับผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 รวม 5 ประการดังนี้

1. การยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.

2. สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือรับเลือกเป็น ส.ว.

3. สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่

4. ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา

5. ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น