กกต.ไม่ชัวร์วินิจฉัยคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ ได้ไหม

กกต.เตรียมประกาศคุณสมบัติและชื่อผู้ที่ลงสมัคร ส.ส.และแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการภายใน 15 ก.พ. รับไม่แน่ใจมีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้แค่ไหน ขอไปหารือก่อน ส่วนการนำภาพขึ้นป้ายหาเสียงทำได้ตามระเบียบ ขณะที่การร้องค้านขอพิจารณาข้อกฎหมาย

วันที่ 8 ก.พ. เวลา 15.35 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงข่าวการสมัครเลือกตั้ง ส.ส. และการการยื่นบัญชีนายกรัฐมนตรีว่า

ตามข้อมูลที่พรรคการเมืองยื่นบัญชีมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีรวม 51 คน จากนี้จะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งประกาศชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ 15 ก.พ. สำหรับผู้ที่ไม่มีชื่อประกาศผ่านการตรวจคุณสมบัติสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้

กรณีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมาย ไม่ได้กำหนดอำนาจให้ กกต. ไว้ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่ามีสิทธิ์ในการวินิจฉัยตรวจสอบได้หรือไม่ ส่วนการที่พรรคการเมืองจะนำรูปแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปขึ้นป้ายหาเสียง เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ กกต.ที่ป้ายหาเสียง มีภาพผู้สมัคร ส.ส.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้

ส่วนการพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ยื่นหนังสือต่อ กกต. คัดค้านพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าอาจผิดระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. หมวด 4 ข้อ 17 “ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง” ทาง กกต. ขอนำไปพิจารณาข้อกฎหมายก่อน แต่การร้องเป็นการร้องเฉพาะในประเด็นเรื่องการหาเสียงทำได้หรือไม่