กทม.สั่งรื้อ “โรงแรมดิเอทัส” หลังยืดเยื้อนาน 3 ปี

ประเด็นคือ – ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนฉุกเฉินผู้ฟ้องคดี กรณีชาวบ้านซอยร่วมฤดี ฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังยืดเยื้อมานาน 3 ปี ไม่จัดการรื้อถอนโรงแรมดิเอทัส มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท ตามคำสั่งบังคับคดีของศาลปกครองสูงสุด

วันที่ 8 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวานนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาที่ศาลปกครอง ชี้แจงเหตุที่รื้อถอนอาคารดังกล่าวล่าช้า เพราะไม่รู้เรื่องฟ้องร้องมาก่อน พร้อมสั่งการให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวแล้ว คาดดำเนินการได้ภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังจากเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับศาลปกครองกลาง เนื่องจากศาลนัดไต่สวนฉุกเฉิน เหตุชาวบ้านซอยร่วมฤดี 24 คน ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน ผู้อำนวยเขตปทุมวัน และผู้ว่ากทม.ปฎิบัติหน้าที่ล่าช้า

กรณีไม่ดำเนินการรื้อถอนโรงแรมเอดิทัส สูง 24 ชั้น และคอนโดมิเนียม สูง 18 ชั้น หรือ สูงเกิน 23 เมตร ในซอยร่วมฤดี ตามคำสั่งบังคับคดีของศาลปกครองสูงสุด หลังเยื้อมานานเกือบ 3 ปีแล้ว เพราะผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 2522 สร้างอาคารสูงติดถนนสาธารณะที่กว้างไม่ถึง 10 เมตร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า สาเหตุที่กทม.ดำเนินการล่าช้า เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่ามีการฟ้องร้องคดีนี้ เพราะพึ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่เบื้องต้นได้ติดตั้งป้ายระงับใช้อาคารเดิเอทัสแล้ว

และยังได้แจ้งความดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของอาคาร ปรับตามกฎหมายกำหนดวันละ 30,000บาท ยืนยันกทม.ดำเนินการจริง จะรื้อถอนอาคารภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ตั้งงบประมาณรื้อถอนแล้วกว่า 200 ล้านบาท

ขณะที่หัวหน้าทนายความอาสา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า อยากให้กรณีเป็นบทเรียนกับสังคม เนื่องจากคดีนี้ไม่คืบหน้ามา 3 ปีแล้ว โดยย้ำว่า ชาวบ้านซอยร่วมฤดีไม่ได้ฟ้องร้องเจ้าของอาคาร แต่เป็นการฟ้องร้องผู้อำนวยเขตปทุมวัน และผู้ว่ากทม.ที่อนุญาตให้สร้างอาคารสูง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขตปทุมวันเคยปฎิเสธให้บนิษัทเอกชนสร้างมาแล้ว แต่ทำไมถึงอนุญาตให้เจ้าของอาคารดังกล่าวสร้างขึ้นมาได้

คดีฟ้องร้องให้รื้อถอนโรงแรมดิเอทัส ยืดเยื้อมานานกว่า 9 ปี นับแต่วันที่ชาวบ้านซอยร่วมฤดี 24 ฟ้องศาลปกครอง หลังพบว่า ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ว่ากทม. อนุญาตให้สร้างอาคารสูงทั้งโรงแรม และคอนโดมิเนียม ภายในซอยแคบเพียง 10 เมตร เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุไฟไหม้อาคารสูงมาแล้ว ทำให้การช่วยเหลือลำบาก เนื่องจากถนนแคบ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านฟ้องร้องให้รื้อถอนครั้งนี้