กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียเปิดเผย กองทัพของประธานาธิบดีอัสซาดทิ้งระบิดโจมตีพื้นที่ฐานที่มั่นกลุ่มกบฎ ฝ่าฝืนคำเตือนของสหรัฐฯ
กลุ่มกบฏในซีเรียระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพซีเรียภายใต้การบัญชาการของประธานธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ทิ้งระเบิดในบริเวณพื้นที่ฐานที่มั่นของ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเป็นครั้งแรกในปีนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) ซึ่งถือเป็นการท้าทายสหรัฐอเมริกา ที่ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้ผู้นำซีเรียหยุดการโจมตีที่รุนแรง
ด้านประธานาธิบดีอัสซาดสาบานว่าจะยึดพื้นที่บริเวณติดพรมแดนจอร์แดน และบริเวณที่ราบสูงโกลันซึ่งอิสราเอลยึดครองอยู่คืนกลับมาให้ได้ โดยกองทัพซีเรียก็ได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีขึ้นในสัปดาห์นี้

ชาวซีเรียกำลังย้ายถิ่นฐานจาก จ.Deraa ไปยังเมืองที่อยู่ติดกับที่ราบสูงโกลัน พื้นที่ยึดครองของอิสราเอล /VCG Photo
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 61 สหรัฐฯ ได้ออกมาย้ำเตือนรัฐบาลซีเรียและรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของนายอัสซาดว่า หากยังโจมตีในพื้นที่ของกลุ่มกบฏ ซีเรียจะต้องเผชิญกับผลกระทบอย่างรุนแรง
ความขัดแย้งข้างต้นอาจส่งผลให้เกิดสงครามได้ เนื่องจากพื้นที่ซึ่งผู้นำซีเรียประสงค์นั้น เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ-อิสราเอล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดการปะทะกันกับทหารอิรัก ซึ่งเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีอัสซาดแห่งซีเรีย
การโจมตีทิ้งระเบิดครั้งล่าสุดของกองทัพซีเรีย มุ่งเป้าไปยังเมืองที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎ ขณะที่นายอาบู บักร์ อัล-ฮัสซาน โฆษกกลุ่มกบฏ Jaish al-Thawra กล่าวว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรียได้โจมตีเมือง 3 แห่ง และหลายหมู่บ้าน แต่สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเปิดเผยว่า กองทัพมีเป้าหมายโจมตีกลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่นั้น
กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียระบุว่า กองทัพซีเรียได้ใช้ปืนใหญ่และจรวดโจมตีพื้นที่ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ
ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ ซาซิปกิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเลบานอนกล่าวว่า รัสเซียกำลังช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียในการยึดพื้นที่ทางใต้กลับคืนมาให้ได้สำเร็จ พร้อมยังระบุว่า อิสราเอลไม่มีเหตุผลที่จะดำเนินการใดๆ ในการขัดขวางการต่อสู้กับการก่อการร้ายของซีเรียและรัสเซีย

บาชาร์ อัล-อัสซาด ปธน.ซีเรีย (ซ้าย), วลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย (ขวา)