กฟผ.ยืนยันทำตามสัญญาซื้อไฟลาวเดิม กรณีลาวเบรกสร้างเขื่อนไม่กระทบไฟฟ้าไทย

ผู้ว่า กฟผ. ระบุ ยังไม่รับทราบจากทางการลาว กรณีชะลอการสร้างเขื่อนใหม่เป็นการชั่วคราว แต่เบื้องต้นทุกอย่างยังต้องเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟเดิม 9,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ความคืบหน้า เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ยังรอตรวจสอบสาเหตุเขื่อนแตก

วันนี้ (9 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าหลังมติ ครม.ลาว ให้ตรวจสอบสาเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเขื่อนไฟฟ้าในลาว

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า ได้สอบถามไปยังผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน โดยเฉพาะบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด  ผู้ถือหุ้นว่าโรงไฟฟ้ายังจะจ่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนดเชิงพาณิชย์ หรือ COD ภายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 ได้หรือไม่ โดยขณะนี้รับทราบว่ารัฐบาลลาว และทางโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงปัญหาที่ทำให้เขื่อนดินแตก ขณะเดียวกันผู้พัฒนาโครงการต้องไปดูระดับน้ำที่ไหลออกจากอ่างว่าจะมีผลต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าหรือไม่

ส่วนกรณีที่ ครม.ลาว มีมติหยุดการสร้างเขื่อนใหม่เป็นการชั่วคราว จะกระทบตามข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้า หรือ เอ็มโอยู  ไทย-ลาว จำนวน 9,000 เมกะวัตต์ ยังไม่ทราบมติอย่างเป็นทางการ คงต้องรอความชัดเจนจากลาวก่อน จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะมีการปรับแผนการผลิตไฟฟ้าอย่างไร  แต่เบื้องต้นยังยึดตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเดิม

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ด้าน นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ไม่อยากให้ทุกฝ่ายกังวลมากจนเกินไป เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงและเชื่อว่า จะไม่กระทบบริษัทไทยที่ไปลงทุนในลาว ส่วนกรณีเขื่อนแตก มั่นใจว่าจะไม่กระทบการจ่ายไฟฟ้ามายังไทย เพราะไทยมีการสำรองไฟฟ้าในระบบ ทำให้ยังมีไฟฟ้าเพียงพอที่จะป้อนเข้าสู่ระบบและไม่กระทบกับเศรษฐกิจ

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน