“กรณ์” พร้อมชิงหัวหน้าประชาธิปัตย์ ยันไม่ร่วม “เพื่อไทย”

“กรณ์” มั่นใจประสบการณ์ด้านการเงินและเศรษฐกิจ เหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมจะนำประชาธิปัตย์เดินไปในเส้นทางที่ต่างจากเดิมหากสมาชิกเทคะแนนให้ แต่จุดยืนชัดเจนไม่ร่วมฝั่งเพื่อไทยแน่ เหลือแค่ร่วมพลังประชารัฐหรือไม่ร่วมเลย

วันที่ 1 พ.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ สุทธิชัย หยุ่น ทางเฟซบุ๊ก Suthichai Yoon ถึงการลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตัดสินใจเรื่องนี้ในวันที่ 24 มี.ค. หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบกับผลการเลือกตั้ง และวันรุ่งขึ้นก็ได้แจ้งผู้ใหญ่ของพรรคทราบ โดยไม่ได้บอกกับนายอภิสิทธิ์เป็นพิเศษ แต่เคยคุยไว้นานแล้วว่าหากนายอภิสิทธิ์ยังลงตนจะสนับสนุน ซึ่งเมื่อนายอภิสิทธิ์ลาออกตนจึงตัดสินใจเสนอตัว

ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์

การเสนอตัวครั้งนี้ตนจะใช้ความแตกต่างจากหัวหน้าพรรคในอดีตที่เป็นนักกฎหมายหรือนักการเมือง โดยจะใช้ประสบการณ์ในการทำงานภาคเอกชนกว่า 20 ปี และความเชี่ยวชาญด้านการเงินและเศรษฐกิจ ขณะที่นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส. ตาก ที่ทาบทามมาเป็นเลขาธิการพรรคร่วมทีมกับตน เป็นวิศวกร และเคยเป็นรัฐมนตรี อุตสาหกรรมและรัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ ทีมเราจึงน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันที่มีประเด็นเรื่องปากท้อง ไม่ใช่แต่เพียงประเด็นเรื่องการเมืองเท่านั้น

ส่วนเรื่องการตัดสินใจทางเมืองนายกรณ์ กล่าวว่า การตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของการที่ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้าได้หรือไม่ มีความมั่นคงหรือไม่ ตามความต้องการของประชาชน ส่วนเรื่องการจะร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ คงจะตอบเรื่องนี้ในพรรค หลังจากที่ทราบจำนวน ส.ส.แน่นอนจากการประกาศของ กกต.แล้ว

“ที่ชัดเจนคือเราจะไม่ตั้งรัฐบาลกับซีกพรรคเพื่อไทยแน่”

เมื่อถูกถามย้ำว่า ถ้าอย่างนั้นก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ   นายกรณ์ จึงตอบว่า หรือไม่ก็ไม่ร่วมเลย

https://www.facebook.com/suthichai.yoon/videos/10157410882576209/

สำหรับ ผู้ที่ประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 15 พ.ค. นอกจากนายกรณ์ แล้ว ยังมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอาจจะมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม ด้วย

ผู้จะร่วมโหวตเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมี 307 คน กลุ่มแรก คือ ส.ส.จากการเลือกตั้งปี 2562 มีน้ำหนักคะแนนอยู่ร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 มาจาก กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ, อดีต ส.ส.ที่ยังเป็นสมาชิกพรรค, อดีตนายกรัฐมนตรี, อดีตรัฐมนตรี, อดีตเลขาธิการพรรค, หัวหน้าสาขาพรรคหรือตัวแทนประจำจังหวัด, ผู้บริหารท้องถิ่นที่ลงสมัครในนามพรรค และตัวแทนผู้สมัครส.ส. ปี 2562