ขอนแก่นเจอวิกฤต ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาล และเกษตรกรชาวไร่อ้อยหยุดทำการเผา ขณะที่กรมควบคุมโรค เตือน ประชาชนป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่โล่ง
วันที่ 7 ก.พ. 62 นายสมศักดิ์ จังกระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุม อุตสาหกรรมจังหวัด โรงงานน้ำตาล และสมาคมชาวไร่อ้อย เพื่อหารือแนวรือแนวทางแก้ไขร่วมกัน หลังจากที่ค่าฝุ่น PM2.5 ที่ จ.ขอนแก่น อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ หลังตลอดทั้งวันที่ผ่านมาพบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน
โดยข้อมูลจาก เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ รายงานเมื่อเวลา 16.00 น. พบว่า ณ สถานีตรวจวัด ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ค่า PM2.5 อยู่ที่ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ PM10 อยู่ที่ 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ หรือ AQI สูงถึง 208 อยู่ในระดับสีแดง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้วาง 4 มาตรการ ลดปัญหาการเกิดฝุ่น ดังนี้
- ให้โรงงานยืดระยะเวลาการหีบอ้อยออกไป เพื่อให้ชาวไร่อ้อยนำส่งอ้อยได้ทัน กรณีชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดส่งโรงงาน เพื่อลดการเผาอ้อยในช่วงนี้
- โรงงานต้องให้อ้อยที่เกิดจากไฟไหม้ ได้รับความอำนวยความสะดวกน้อยที่สุด เพื่อส่งสัญญาณเชิงประนีประนอมแก่คนที่ตั้งใจเผาอ้อย
- ฝ่ายควบคุม ต้องตั้งคณะอนุกรรมการอ้อยส่วนหน้า เพื่อดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ โดยจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบ
- โรงงานน้ำตาลต้องดูเรื่องฝุ่นที่เกิดขึ้นจากโรงงาน โดยให้นำน้ำมาพรมช่วยเหลือทางราชการด้วย
แม้ว่าค่าฝุ่นละอองในหลายอำเภอ จังหวัดขอนแก่น แต่พบว่า ประชาชนยังไม่สวมใส่หน้ากากป้องกัน เพราะหลายคนเห็นว่าสถานการณ์ฝุ่นแบบนี้เกิดขึ้นทุกปี และที่ผ่านมายังไม่สังเกตเห็นฝุ่นละออง แต่ก็จะมีบางวันที่ฟ้าครึ้ม
ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์กับเวิร์คพอยท์ออนไลน์ ว่าจากสถานการณ์ฝุ่นที่ จ.ขอนแก่น กรมควบคุมโรค ได้ประสานกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น โดยจะมีมาตรการหลักๆ คือ ให้สถานพยาบาลทุกแห่งตั้งรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง และส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อดูแลผู้ป่วยและให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษ
และที่น่าเป็นห่วงคือ การรายงานค่าฝุ่นละอองในอากาศ ของขอนแก่น จะแตกต่างจาก กรุงเทพฯ คือจุดตรวจวัดไม่เยอะ ประชาชนจะไม่สามารถรู้ว่าสภาพอากาศในพื้นที่ที่อาศัยอยู่มีฝุ่นเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ และ สาเหตุหลักๆ ที่ขอนแก่น ก็มาจากการเผาเป็นหลัก ทำให้ฝุ่นละอองในอากาศ มีทั้ง PM2.5 และ PM10 จึงอยากเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ที่มีรุชคประจำตัว เช่นโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่ม เด็ก คนชรา และหญิงตั้งครรภ์ ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้าน ส่วนคนที่ร่างกายแข่งแรง แต่ต้องอาศัย ทำงาน หรือ อยู่ในที่โล่งนานๆ ควรสวมหน้ากาก N95 ป้องกัน
ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อ ร่างกายได้รับ PM 2.5 อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ ผลกระทบแบบเฉียบพลัน ระคายเคืองตา แสบตา ไอ จาม ผิวหนังระคายเคือง กระทบต่อคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือด จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น และผลกระทบในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน คือ PM2.5 มีสารก่อมะเร็ง เมื่อรับเข้าไปในปริมาณมากและสะสมเป็นเวลานานจะเกิดอันตรายในอนาคต
โดยในวันพรุ่งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จะนำหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้น มาแจกประชาชนที่บริเวณชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
