กรมชลประทาน เผย ได้ระบายน้ำในสถานที่เก็บกักน้ำ 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับเขื่อน จนถึงคูคลอง เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น
วันที่ 3 ม.ค. 62 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนปาบึก ที่เตรียมขึ้นชายฝั่งทะเลทางภาคใต้ของไทย ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมกรรโชกแรงต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 4 – 6 ม.ค. ว่าทางกรมชลประทาน ได้ระบายน้ำในสถานที่เก็บกักน้ำ 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับเขื่อนจนถึงคูคลอง เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 100 มิลลิเมตร ในทุกพื้นที่ อาทิ เขื่อนปรานบุรี ซึ่งในยามปกติจะมีการระบายน้ำประมาณ 200,000 ถึง 500,000 ลูกบาศก์มิลลิเมตร แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการระบายน้ำถึง 2,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีพื้นที่เฝ้าระวังในเขตชลประทาน รวมทั้งหมด 75 จุด รวมทั้งหมด 16 จังหวัด นอกจากนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนรองรับ โดยเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่อาจจะขวางทางน้ำบนพื้นถนน และเตรียมเครื่องสูบน้ำ ช่วยพลักดันน้ำ ตลอดจนเตรียมแผนกรณีไฟฟ้าดับ โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย คอยจัดสรรอุปกรณ์เหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย และกรณีติดต่อไม่ได้ หรือสัญญาณโทรศัพท์ล่ม จะใช้วิทยุผ่านมือถือ เป็นช่องทางสำรอง
ด้าน นายธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ พายุโซนร้อนปาบึก จะเคลื่อนตัวเรียบชายฝั่งทางภาคใต้ พัดผ่านทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คาดฝนจะตกหนักสุดในวันที่ 4 ม.ค. มีปริมาณน้ำฝน 100 มิลลิเมตร มีคลื่นสูงประมาณ 3-5 เมตร และอาจมีดินถล่ม หรือ น้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ไม่ควรนำเรือทุกชนิดออกจากฝั่ง พร้อมขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันน้ำป่าไหลหลาก และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด