SHARE

คัดลอกแล้ว

เกิดเหตุชายชาวต่างชาติวัย 67 วูบ ขับกระบะพุ่งชนรถที่จอดติดไฟแดงและจอดอยู่ริมถนนพังยับ 7 คันรวดกลางสี่แยกไฟแดง

วันนี้ (20 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุรถกระบะ โตโยต้า รีโว้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บย- 7968 บุรีรัมย์ ซึ่งมีชายชาวอังกฤษชื่อ นายไบรอั้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี เป็นผู้ขับขี่ ขณะกำลังมุ่งหน้ากลับไปบ้านที่ ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงรมบุรี ในเขตเทศบาลเมือง รถกระบะของชายคนดังกล่าวได้เสียหลักพุ่งชนรถเก๋ง กระบะ และฟอร์จูนเนอร์ 7 คันรวด สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ไชยา แก้วยก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ก็ได้เดินทางมาตรวจสอบ เนื่องจากสี่แยกไฟแดงที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากสถานีตำรวจไม่ถึง 100 เมตร โชคดีที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับอันตรายสาหัส หรือเสียชีวิต มีเพียงนายไบรอั้น คนขับได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะจากแรงกระแทกเท่านั้น

จากเหตุการณ์นี้สร้างความชุลมุนวุ่นวาย เนื่องจากเกิดเหตุบริเวณสี่แยกไฟแดง และรถที่ประสบเหตุก็อยู่ในลักษณะขวางกลางถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ หลังจากพนักงานสอบสวนบันทึกภาพจุดเกิดเหตุ  ก็ได้ประสานรถยกมาทำการเคลื่อนย้ายรถทั้ง 7 คันออกจากผิวจราจร

จากการสอบถาม น.ส.บุญนาค ยืนยาว อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกพุ่งชนบอกว่า ตนขับรถมาจาก ต.สองชั้น อ.กระสัง เพื่อจะเข้าไปซื้อของในตลาดไนท์ ขณะจอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกรมบุรี จู่ๆ ก็มีรถกระบะซึ่งขับมาอีกฝั่งพุ่งเข้ามาชนเต็มแรง เสียงดังสนั่น ตนเองตกใจมาก เมื่อลงจากรถก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หยิบมือถือมาถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนางเตือนจิต เติดประโคน ภรรยาของไบรอั้นบอกว่า สามีเพิ่งกลับจากประเทศลาวเมื่อคืน ตอนเช้าก็ขับรถมาหาน้องชายที่พักอยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ พอขับมาถึงแยกไฟแดงก็เกิดหน้ามืด ทำให้ไม่สามารถบังคับรถได้จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น คาดว่าสามีอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอจึงเกิดหน้ามืดกะทันหัน ซึ่งตนเองและสามีก็พร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายรถคู่กรณี และรถคันเกิดเหตุมีประกันชั้น 1 อยู่

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายไบรอั้น ข้อหาขับรถด้วยความประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณสี่แยกพบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายตัว แต่เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่ดูแลกลับพบว่ากล้องเสีย ใช้การไม่ได้สักตัว จึงไม่มีหลักฐานขณะเกิดเหตุ

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า