การเมืองก็ขำได้ ! ดีเบตเลือกตั้ง “สไตล์หม่ำ”

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย

ท่ามกลางศึกดีเบต หรือการขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์และนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นไหวพริบของผู้ที่จะมาบริหารประเทศ

แต่ท่ามกลางความดุเดือดของเวทีการเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรค แต่ละสื่อ ล้วนจัดเวทีดีเบตกันแทบไม่เว้นวัน รายการ “ซูเปอร์หม่ำ” ก็ละลายความตึงเครียดในแวดวงการเมืองได้อย่างถูกจังหวะ เมื่อเชิญแขกรับเชิญพิเศษเป็นเหล่าสาวงามนางฟ้านักการเมือง 8 คน จาก 8 พรรค มาร่วมเวทีรายการวาไรตี้ที่เสิร์ฟรอยยิ้มให้ผู้ชมได้ตั้งแต่ต้นจนจบรายการ โดยมี “พี่หม่ำ จ๊กมก” เป็นผู้ดำเนินรายการที่คอยหยอดมุกและยิงคำถามได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าทั้งขำ ทั้งมีสาระ ครบในรายการเดียว

สำหรับนางฟ้านักการเมืองทั้ง 8 คน ที่มาร่วมดีเบตในรายการซูเปอร์หม่ำ ได้แก่

1. ณหทัย เล็กบำรุง (เนย) ผู้สมัคร ส.ส. กทม.จากพรรคไทยรักษาชาติ
2. วรรณวรี ตะล่อมสิน (ป๊อป) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตยานนาวา, บางคอแหลม จากพรรคอนาคตใหม่
3. ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช (ตุ๊กตา) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตภาษีเจริญ, ตลิ่งชัน จากพรรคชาติไทยพัฒนา
4. สุชาดา แทนทรัพย์ (ไอเดียร์) ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากพรรคประชาธิปัตย์
5. เยาวภา บุรพลชัย (วิว) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางแค จากพรรคชาติพัฒนา
6. นพวรรณ หัวใจมั่น (อ้อแอ้) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางเขน จากพรรคพลังประชารัฐ
7. ณัฐธนินทร์ เลิศเตชะสกุล (โย) ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย
8. ชนก จันทาทอง (มด) ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จังหวัดหนองคาย จากพรรคเพื่อไทย

โดยพี่หม่ำได้เปิดโอกาสให้เหล่านางฟ้านักการเมืองได้แสดงวิสัยทัศน์กันพอหอมปากหอมคอ ในเวลาเท่าๆ กัน ไม่สั้นเกินไปและไม่ยาวเกินไป ไม่มีการโต้เถียงหรือเคร่งเครียดนัก โดยให้แต่ละคนเล่าถึงที่มาที่ไปก่อนจะมาลงสมัครเลือกตั้ง ก่อนจะให้เล่าถึงความประทับใจที่ได้ไปลงพื้นที่หาเสียง ให้ฝากนโยบายพรรคถึงพี่น้องประชาชน รวมถึงความคิดเห็นของคนในครอบครัวกับการที่สาวๆ แต่ละคนตัดสินใจมาลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งพี่หม่ำก็คอยยิงมุกตลกสอดแทรกได้อย่างถูกจังหวะ

อย่างตอนที่แต่ละคนแนะนำตัวเองเสร็จแล้ว พี่หม่ำก็แนะนำตัวเองบ้างว่ามาจาก “พรรคนี้คิดถึงเชียงรายครับ ผมได้แต่งตั้งคุณเท่งเป็นรองนายกแล้ว แต่ตอนนี้ยังหาตัวเขาไม่เจอ (ฮา)” ไปจนถึงคำถามที่หนุ่มๆ อยากรู้ อย่าง “เป็น ส.ส.นี่คงไม่มีผู้ชายกล้าเข้ามาจีบหรอกมั้งเนี่ย” ซึ่งสาวๆ แต่ละคนก็ได้ตอบคำถามที่เรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้ไม่แพ้กัน ทั้ง “ก็มีคนเข้ามาคุยเรื่อยๆ น่ะค่ะ”, “หาไม่ได้ก็ไม่มีดีกว่า” ซึ่งพี่หม่ำก็ได้หยอดกลับไปว่า “อ้าวเหรอ ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเลยเหรอ (ฮา)” ฯลฯ

ณหทัย เล็กบำรุง (เนย) ผู้สมัคร ส.ส. กทม.จากพรรคไทยรักษาชาติ บอกว่า ตนเคยทำงานในวงการบันเทิงอยู่บ้าง และเคยเป็นอดีตนางงามด้วย คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทำอะไรเพื่อประเทศของเราบ้าง อย่างตอนที่ไปประกวดเมืองนอกก็คาดสายสะพายไทยแลนด์อยู่แล้ว ไม่ได้ไปด้วยชื่อตัวเอง จึงคิดว่าน่าจะมีบทบาทด้านการเมือง และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“ขอโอกาสให้พรรคไทยรัษาชาตินะคะ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสใหม่ เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่ง สังคมจึงเป็นสุขค่ะ”

วรรณวรี ตะล่อมสิน (ป๊อป) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตยานนาวา, บางคอแหลม จากพรรคอนาคตใหม่ บอกว่า ก่อนมาเล่นการเมือง ตนทำธุรกิจครอบครัว และมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งเป็นงานด้านกราฟิกดีไซน์ รวมทั้งเป็นเจ้าของแบรนด์ขายเสื่อโยคะและอุปกรณ์โยคะ โดยเริ่มสนใจการเมืองตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งในครั้งนี้ได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยแรก ถือเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ตนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ จึงอยากมาทำทางด้านการเมืองให้สำเร็จด้วย และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“พรรคอนาคตใหม่ เรายึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย เรายืนอยู่เคียงข้างประชาชน ให้คนรุ่นใหม่แก้ไขปัญหาประเทศค่ะ”

ปุณฐิภาภัคร์ สุวรรณราช (ตุ๊กตา) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตภาษีเจริญ, ตลิ่งชัน จากพรรคชาติไทยพัฒนา บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานในวงการบันเทิง เป็นนักแสดงอิสระ และทำธุรกิจส่วนตัว โดยหลังจากเรียนจบปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างของประเทศไทย และรู้สึกว่าตนเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนรุ่นใหม่ อยากให้ประเทศไทยขับเคลื่อนและเดินไปข้างหน้า ก็เลยตัดสินใจลงเล่นการเมืองเป็นครั้งแรก และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“ขอโอกาสให้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน อยากบอกว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคที่พูดน้อย แต่ทำจริง เราขอรับใช้พ่อแม่พี่น้องด้วยสัจจะและความกตัญญูต่อประเทศไทยค่ะ”

สุชาดา แทนทรัพย์ (ไอเดียร์) ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ตนอายุ 26 ปี เป็นคนอีสาน มาจากจังหวัดชัยภูมิ กำลังจะเรียนจบปริญญาโท จาก ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ตนมีโอกาสไปขอศึกษางานทางด้านการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจร่วมกับเลขาธิการพรรคโดยตรง และมีโอกาสได้ดูแลน้องๆ ที่มาอินเทิร์นที่พรรค ได้คลุกคลี ได้รู้ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงมีความสนใจทางด้านการเมือง และฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“พรรคประชาธิปัตย์นะคะ พรรคเราซื่อๆ ตรงๆ ค่ะ ถ้าอยากได้นโยบายที่รับฟังประชาชนจริงๆ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต วันนี้หนูเลือกแล้ว ความเป็นเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริงคือพรรคประชาธิปัตย์ แล้วหนูก็อยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนรับพรรคประชาธิปัตย์ไว้ในจิตใจด้วยค่ะ”

เยาวภา บุรพลชัย (วิว) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางแค จากพรรคชาติพัฒนา ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ได้เหรียญทองแดงโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย บอกว่า หลังจากที่เลิกเล่นกีฬาแล้ว ตนก็เปิดบริษัท ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาเทควันโด เปิดทั้งโรงเรียน จัดการแข่งขันเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ รวมทั้งทำโครงการไปสอนเด็กๆ ในชุมชนห่างไกล และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“พรรคชาติพัฒนาเราให้เกียรติทุกความคิดเห็นทางการเมือง สโลแกนของพรรคเราคือ ชาติพัฒนา No Problem ค่ะ คำว่า No Problem คือเราไม่มีปัญหา เราจะไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศ เราจะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน หากเบื่อความขัดแย้งให้เลือกชาติพัฒนา No Problem ค่ะ”

นพวรรณ หัวใจมั่น (อ้อแอ้) ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางเขน จากพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ก่อนมาเล่นการเมือง ตนเป็นเภสัชกรมาก่อน และอยู่ที่ร้านขายยาย่านบางเขน และได้เห็นปัญหาของคนในชุมชน จึงอยากอาสามาแก้ไขปัญหาให้ และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่รับฟังปัญหาของประชาชนทุกคน แล้วเราก็ได้นำมาจัดทำเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุด และแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกคน โดยที่เราไม่แบ่งสี แล้วก็ไม่แบ่งฝ่ายค่ะ”

ณัฐธนินทร์ เลิศเตชะสกุล (โย) ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย บอกว่า ตนเป็นคนจังหวัดชุมพร ซึ่งไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน แต่ทำงานด้านการเมืองมา 14 ปี รวมทั้งเป็นผู้ประกาศข่าวและพิธีกรเกี่ยวกับเรื่องการเมืองมาโดยตลอด และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“พรรคพลังประชาชาติไทยเป็นพรรคการเมืองของประชาชน พรรคของเราต้องการพัฒนาการเมืองให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยากให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคที่เกิดจากประชาชน และมาร่วมกันบริหารประเทศนี้ บ้านนี้ เมืองนี้ร่วมกัน”

ชนก จันทาทอง (มด) ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จังหวัดหนองคาย จากพรรคเพื่อไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยสำเนียงคนภาคกลางผสมภาษาอีสานว่า ตนมาจากจังหวัดหนองคาย ลงสมัครเป็นสมัยแรก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เป็นอดีตนักการเมือง จึงอยากสานต่อสิ่งที่พ่อแม่ทำ โดยก่อนหน้านี้ตนเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ ซึ่งจัดทัวร์ทั่วโลกมากว่า 20 ปี และได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนโดยสรุปว่า

“เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องพรรคเพื่อไทยค่ะ อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยากมีกระเป๋าตุงๆ ให้เลือกพรรคเพื่อไทย”

นับเป็นมิติใหม่ของรายการวาไรตี้ ที่จัดเวทีดีเบตทางการเมืองได้อย่างสนุกสนาน แถมได้สาระในคราวเดียวกัน สไตล์พี่หม่ำเขานั่นล่ะ