ขนส่งภูเก็ตผุดแอปพลิเคชัน Bus Beam อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร

ประเด็นคือ – จ.ภูเก็ต เปิดตัว แอปพลิเคชัน Bus Beam ในโครงการพัฒนาการเข้าถึงบริการรถโดยสารประจำทางจังหวัดภูเก็ตผ่านแอป ใช้ได้ทั้ง Android และ IOS ซึ่งช่วยตรวจสอบการเดินทางของรถโดยสารประจำทางผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองได้ 

วันที่ 11 ธันวาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม 2 อาคารคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกฝ่ายบริหาร ร่วมกับ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดตัว แอปพลิเคชัน Bus Beam ในโครงการพัฒนาการเข้าถึงบริการรถโดยสารประจำทางจังหวัดภูเก็ตผ่านแอปพลิเคชัน “Smart Bus Smart Passengers” โดยมี นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบการด้านการขนส่งผู้โดยสารเข้าร่วม

โอกาสนี้ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาและทดลองใช้แอปพลิเคชันในโครงการพัฒนาการเข้าถึงบริการรถโดยสารสาธารณะประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ระหว่างสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต กับ บริษัท แท็กซี่-บีม จำกัด, บริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด, บริษัท นครบริการขนส่ง จำกัด, บริษัท วาระรัศมีมหานคร จำกัด, บริษัท พันทิพย์ (๑๙๗๐) จำกัด และ หจก.โอเอสทัวร์  ด้วย

สำหรับแอปพลิเคชัน Bus Beam มีความหมายว่า “ลำแสงส่องหารถบัส” สามารถใช้ได้ทั้งในระบบ Android และ IOS ดาวน์โหลดได้จาก Play Store และ App Store มีการทดลองใช้ใน 5 เส้นทาง คือ

1. เส้นทางในจังหวัดภูเก็ต เส้นทางหมวด 4 จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสนามบิน – สถานีขนส่งผู้โดยสาร 1 และ 2 และเส้นทางสนามบิน – ป่าตอง
2. รถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดในรถหมวด 3 ในจังหวัดที่เชื่อมโยงกันในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี สงขลา และภูเก็ต ซึ่งการเดินทางภูเก็ต – นครศรีธรรมราช มี 2 เส้นทาง คือ ภูเก็ต-ทุ่งสง- นครศรีธรรมราช และเส้นทางภูเก็ต-ลานสกา-นครศรีธรรมราช, เส้นทางภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี มี 1 เส้นทาง และจากจังหวัดนครศรีธรรมราช-สงขลามี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางนครศรีธรรมราช-สงขลา และเส้นทางนครศรีธรรมราช-หาดใหญ่ รวมทั้งเส้นทางภูเก็ต-หาดใหญ่ด้วย

เบื้องต้น แอปพลิเคชัน Bus Beam มีโปรแกรมการใช้งานเป็นภาษาไทย โดยคาดว่าในเดือนมกราคม 2561 จะมีการพัฒนาโปรแกรมเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดทำแอปพลิเคชัน Bus Beam นั้น ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตได้ใช้นโยบายประชารัฐบูรณาการกับภาคเอกชน เชื่อมคนเชื่อมรถ ผู้โดยสารรอคอยแบบ “รู้รถ รู้เวลา” โดยเป็นการต่อยอดนโยบาย มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเพื่อประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าถึงได้สะดวก รวมทั้งยังเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการขนส่ง ในภาคการขนส่งของจังหวัดภูเก็ตและภาคใต้

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตขณะนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมแล้ว 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท วาระรัศมีมหาธานี จำกัด, บริษัท นครบริการขนส่ง จำกัด, บริษัทพันทิพย์ (๑๙๗๐) จำกัด บริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด และ หจก.โอเอสทัวร์ และต่อไปในอนาคตจะมีการพัฒนาไปยังภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบให้มีภาษาอังกฤษและภาษาจีน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาให้รถโดยสารสามารถรู้ได้ว่า ระยะทางที่ผ่านนั้นมีผู้โดยสารรออยู่กี่คน ห่างจากตัวรถประมาณกี่กิโลเมตร และจะมีการพัฒนาระบบให้สามารถทำงานได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายในภารกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกำกับดูแลส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สร้างสรรค์นวัตกรรมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือก เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการให้บริการที่มีความทันสมัย ทันสถานการณ์ อำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำเทคโนโลยีทันสมัยมาพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะให้กับประชาชนชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการรถโดยสารประจำทาง สามารถตรวจสอบการเดินทางของรถโดยสารประจำทางผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองได้ ทั้งที่เป็นการเดินทางภายในจังหวัด และจากจังหวัดภูเก็ตไปยังจังหวัดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการให้บริการรถโดยสารประจำทางของกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย

นางสาว อรุณรัศมี สิงหเกรียงไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท วาระรัศมีมหานคร จำกัด ซึ่งให้บริการรถขนส่งสาธารณะ เส้นทางภูเก็ต-หาดใหญ่ มีรถให้บริการจำนวน 24 คันต่อวัน และมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 400 คัน กล่าวถึงการนำแอปพลิเคชันดังกล่าวมาใช้ในการให้บริการว่า เหตุที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากมองว่ามีประโยชน์มาก และยังเป็นการตอบโจทย์ผู้โดยสารได้อย่างครบถ้วน รองรับการโดยสารรถประจำทางแบบใหม่ในอนาคต เพราะเดิมผู้โดยสารจะต้องมายังสถานีขนส่งเพื่อรอขึ้นรถ แต่เมื่อมีแอปจะทำให้ตรวจสอบได้ว่ารถมาจุดใด และรอในจุดจอดใกล้บ้านได้เลย ทำให้วางแผนการเดินทางได้สะดวกและประหยัดเวลาในการรอรถโดยสารแต่ละครั้ง จึงเชื่อว่าการใช้แอปจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผู้โดยสารมาใช้บริการมากขึ้น ส่วนในอนาคตต้องการให้มีการต่อยอด โดยตรวจสอบได้ว่ารถจะถึงจุดเป้าหมายเวลาใด และชำระค่าโดยสารผ่านทางแอปได้ จะทำให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น