ขึ้นหรีดประท้วง นอภ.ยันทำถูก ชี้ปิด 5 ปี ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ประเด็นคือ- ร้านลาบ ‘ยักษา’ จ.เชียงใหม่ ถูกสั่งปิดร้าน 5 ปีเพราะจำหน่ายแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงขึ้นป้ายประท้วงเต็มหน้าร้านและในร้าน ล่าสุดเขียนประท้วงในเฟซบุ๊กของร้าน ด้านนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ย้ำชัดทำตามหน้าที่ โดยยึดหลักกฎหมาย การเขียนพาดพิงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเฟซบุ๊ก เข้าข่ายความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.ย. 60) ความคืบหน้ากรณีร้านอาหารชื่อ ‘ยักษา’ ที่ทางร้านระบุว่า เป็นร้านขายลาบและอาหารพื้นเมือง ย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ จัดกิจกรรมและติดป้ายประชดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีคำสั่งปิดร้าน 5 ปี เนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลาที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งทางร้านอ้างว่า เจ้าหน้าที่ลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ และไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น เมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 60) นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ยืนยันว่า กรณีที่มีคำสั่งปิดร้านดังกล่าว โดยห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลา 5 ปีนั้น เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายและให้ความเป็นธรรมโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งผู้ประกอบการแต่อย่างใด

ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ เวลาประมาณ 01.20 น. ของคืนวันที่ 16 มิ.ย. 60 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 17 มิ.ย. 60 จากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว จึงพบว่า ร้านดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นร้านอาหารขายลาบ และระบุว่าเปิดบริการถึง 06.00 น. มีการเพลงและเปิดถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล รวมทั้งมีการจำหน่ายเบียร์ให้ลูกค้าด้วย ซึ่งเข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ และตามกฎหมายกำหนดว่าสามารถเปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. แต่ปรากฏว่าขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมีการเปิดเกินเวลา และมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้านอกเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงถูกดำเนินการตามกฎหมาย

โดยทางร้านให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวน และเสียค่าปรับที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากนั้นทาง อ.เมืองเชียงใหม่ ได้แจ้งทางร้านว่า มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขัดคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558

ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 60 ทางร้านได้ทำหนังสืออุทธรณ์ อ้างว่าการกระทำความผิดดังกล่าวเกิดจากพนักงานของร้านเป็นพนักงานใหม่ จึงไม่ทราบข้อกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทางคณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้วไม่เห็นด้วย และเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ลงนามคำสั่งปิดร้านดังกล่าว โดยห้ามไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ยังสามารถเปิดร้านอาหารหรือกิจการอื่นได้

นอกจากนี้ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ย้ำว่า การปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทำโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก และไม่มีการกลั่นแกล้งผู้ประกอบการแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมามีร้านในเชียงใหม่ที่ถูกดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 50 ร้าน ซึ่งผู้ประกอบการเจ้าของร้านต่างยอมรับผลจากการกระทำความผิดด้วยดี โดยบางร้านยังคงใช้สถานที่เดิม แต่เปลี่ยนไปประกอบกิจการอย่างอื่น โดยไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่บางร้านย้ายไปหาสถานที่ใหม่เพื่อประกอบการต่อไป

ส่วนกรณีที่ทางเจ้าของร้าน ‘ยักษา’ มีการกล่าวพาดพิงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในเชิงลบ และมีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียด้วยนั้น นายศรัณยู กล่าวว่า เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานว่ามีการพาดพิงหรือหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หรือบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ทั้งการถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และเข้าใจผิดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป