SHARE

คัดลอกแล้ว

หลายข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้น แต่ปมนาฬิกาหรู 25 เรือน ของ “บิ๊กป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่หลุดออกนอกกระดานข่าว

ด้วยขบวนการเกาะติด จากฝ่ายตรวจสอบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พุ่งเป้าไปในจุดที่เป็นกันชนให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. อย่าง “บิ๊กป้อม” ซึ่งเป็นทั้งจุดแข็ง และ จุดอ่อน ของ คสช.ไปในตัว

การมี พลเอกประวิตร ในคสช. อาจจะเป็นจุดแข็งที่ พลเอกประยุทธ์  ไม่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกระแทกทางการเมืองเอง เพราะพลเอกประวิตร มีบารมี และคอนเนกชั่นกว้างขวาง พร้อมที่จะออกหน้าเดินเกมได้โดยไม่ต้องถึงมือ นายกฯ แต่ก็ต้องแลกกับการให้ “บิ๊กป้อม” กำกับดูแลกองทัพ ในฐานะ รมว.กลาโหม อย่างเบ็ดเสร็จด้วย

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การจัดโผโยกย้ายทหาร เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” ก็สร้างบาดแผลให้เกิดขึ้นกับทหารในกองทัพหลายกลุ่ม  เนื่องจากเลือกคนของตัวเองเข้ามามีอำนาจ

พอเข้ามาในยุคเปลี่ยนผ่าน ทหารกลุ่ม “บูรพาพยัคฆ์” และ “วงศ์เทวัญ” ถูกสลายกระจายไปตามโครงสร้างอำนาจที่เปลี่ยนแปลงไป ต่างจากในช่วงที่ พลเอกประวิตร พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ เรืองอำนาจในช่วงแรกๆ แม้จะเป็นเหตุผลเรื่องการสร้างกองทัพให้เป็นเอกภาพ เลือกคนที่ไว้ใจขึ้นมาคุมกำลัง แต่ก็หนีไม่พ้นคำว่า “เล่นพวก” เพราะได้เขี่ยทหารสายอื่น ออกจากเส้นทางผู้บัญชาการเหล่าทัพ

การโยกย้ายทหารกลางปีและปลายปี จึงมีแต่รายชื่อเด็กในคาถา “บิ๊กป้อม” ทหารบูรพาพยัคฆ์ คนใกล้ชิด รมว.กลาโหม ผงาดขึ้นในตำแหน่งสำคัญ หรือแม้กระทั่งการจัดทัพ มาจ่อในเก้าอี้ที่พร้อมจะเข้าฮอร์สขึ้นเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็มีให้เห็นในข่าวการโยกย้ายต่อเนื่องหลายปี และเมื่อเกิดหลายครั้ง ก็กลายเป็น “ความไม่พอใจ” ของคนที่พลาดหวังตกตะกอนอยู่ใต้กองทัพ จึงส่งผลให้เกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นจนน่ากลัว

“บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

การขึ้นมาเป็น ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ของ “บิ๊กเจี้ยบ” พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท นายทหารรบพิเศษ นอกสายบูรพาพยัคฆ์ ต้องอาศัยแรงผลักดันที่หนักแน่น ภายใต้อำนาจที่เปลี่ยนทิศ โดยแรงดันหลักยังมาจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายทหารรบพิเศษ และ “บ้านสี่เสาฯ” เป็นหลัก

กว่าจะฝ่าด่าน “บูรพาพยัคฆ์” ที่ต่อแถวกันเข้ามา นับแต่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, พลเอกอุดมเดช สีตบุตร, พลเอกธีรชัย นาควานิช ก่อนที่จะต่อคิวด้วย พลเอกพิสิทธิ์ สิทธิสาร ที่ “บิ๊กป้อม” หนุนสุดตัว  ก็ต้องมี “กำลังภายในพิเศษ” จนทำให้ “บิ๊กเจี้ยบ” ผงาดขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกได้ในที่สุด

  • “รบพิเศษ”ในสถานการณ์ร้อน

อาจเป็นเพราะกองทัพต้องเจอกับวัฒนธรรมของทหาร “สายบูรพาพยัคฆ์” ที่ค่อนข้างมีพิธีรีตองมานาน ทำให้เมื่อมีทหารรบพิเศษ เข้ามาเป็นผู้บัญชาการทหารบก อีกครั้ง บรรยากาศในกองทัพเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น  ประกอบกับธรรมชาติของ “นักรบหมวกแดง” ที่ทำงานข่าว และปฏิบัติการจิตวิทยาเดินหน้าเข้าหามวลชน จึงสามารถเข้าถึงกำลังพลได้ไม่ยาก

เมื่อครั้ง “บิ๊กเจี้ยบ” ทำงานใน 5 เสือ ทบ. แม้จะได้รับการจับตามองในฐานะแคนดิเดต ผู้บัญชาการทหารบก  แต่เจ้าตัวก็จะ “โลว์ โปรไฟล์” มาตลอด และเมื่อขึ้นเป็น ผู้บัญชาการทหารบกแล้วก็ยังปฏิบัติภารกิจแบบ “เงียบๆ” ในการลงพื้นที่ก็จะนายทหารคนสนิทแค่ 2-3 คนชุดรปภ. ก็ไม่ได้มากมาย เป็นไปตามความเหมาะสม ทำให้ “ได้ใจ” ผู้บังคับหน่วยในระดับล่างไปเต็มๆ

แต่ด้วยความเป็น “ทหารรบพิเศษ” ที่หลายคนเชื่อว่า “ซับซ้อน” ไม่ได้คิดอะไรชั้นเดียว กลับยิ่งทำให้เขาถูกจับตามองจากฝ่ายตรงข้าม รวมถึงพวกเดียวกันเอง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การเมืองเริ่มมีแรงกระเพื่อมจากปมนาฬิกาหรูทำให้คะแนนของรัฐบาล และ คสช. ตกลง

เมื่อเห็นรอยปริร้าวที่เกิดขึ้น จึงเริ่มมีการโหมกระพือข่าวการรัฐประหารซ้ำใน คสช. เพื่อเปลี่ยนตัว นายกฯ  ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนเป็นการขุดบ่อล่อปลาให้ นายกฯ ลงดาบจัดการนำ “บิ๊กป้อม” ออกจาก ครม. ก่อนที่รัฐบาลจะล่ม สร้างแรงกดดันให้กับนายกฯ และ คสช. อย่างต่อเนื่อง

แต่ “บิ๊กเจี้ยบ” ก็ยังคงวางท่าทีในฐานะ ผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐบาล และ คสช. เป็นอย่างดี เพราะโดยตำแหน่ง เขายังเป็น ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(ผบ.กกล.รส.) ดูแลทหารที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบทั่วประเทศ และยังเป็น เลขาธิการสำนักงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแลสายงาน กอ.รมน. ขับเคลื่อนงานให้คสช.และรัฐบาล  เพื่อให้งานเกิดเป็นรูปธรรม

ท่ามกลางสถานการณ์เปิดแผล คสช. ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ “บิ๊กเจี้ยบ” ยังคง “นิ่ง” และให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับกระแสความรู้สึกของคนที่มีต่อรัฐบาล น่าสนใจว่า  อนาคตของ “บิ๊กเจี้ยบ” ก่อนเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ จะจบลงแบบปกติ หรือ พลิกผันนั้น…  ยังเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดา

  • “โยกย้ายทหาร” บุญเก่า “บิ๊กป้อม”

ต้องยอมรับว่า ห้วงที่ผ่านมาใครอยากได้ดีก็ต้องมุดเข้ามูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และบ้านลาดพร้าวของ “บิ๊กป้อม” โดยเฉพาะ ทหาร-ตำรวจ ที่เข้าออกกัน เช้า – เย็น แทบหัวบันไดไม่แห้ง

แม้จะมีช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างอำนาจประเทศเปลี่ยนแปลงไป แต่ฐานที่มั่นในกองทัพยังเป็น “บุญเก่า” ของ “บิ๊กป้อม” ที่ส่งลูกน้องไปจ่อในตำแหน่งที่สำคัญไว้แล้ว

ในระดับ “แม่ทัพภาค” ทั้ง “ตู่เล็ก” พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 “บิ๊กแบล็ค” พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ล้วนเป็นเด็กสายตรง และเด็กในบ้านของ “บิ๊กป้อม” ส่วน “บิ๊กตี๋” พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3  และ “บิ๊กอาร์ท” พล.ท.ปิยวัฒน์  นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4  เป็นสายตรงของคนใกล้ชิด และ น้องชาย ของ พล.อ.ธีรชัย  นาควานิช องคมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก

ในช่วงโยกย้ายกลางปี มีแรงดัน 2 แม่ทัพออกจากเก้าอี้ค่อนข้างแรง โดยเฉพาะ “บิ๊กอาร์ท” ที่จะเกษียณอายุราชการปลายปีที่ควรขยับขึ้นไปครองอัตราพลเอกก่อนเกษียณแต่เจ้าตัวก็ออกตัวหลายครั้งผ่านสื่อ ที่จะขอทำหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 4  คาเก้าอี้ต่อไปจนเกษียณ

ทำให้รองแม่ทัพภาคที่ 4 จ่อขึ้น รวมถึง รองเสนาธิการทหารบก ที่อาจถูกลงไปเสียบ ต้องรอดูการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาอีกในช่วงโค้งสุดท้าย เช่นเดียวกับ “แม่ทัพตี๋”  ที่ดูพื้นที่ภาคเหนือ “ฮาร์ดแลนด์” ทางการเมืองอีกจุดหนึ่ง นอกจากภาคอีสาน ที่อาจขยับขึ้นมาเป็นพลเอก แม้จะมีอายุราชการถึงปี 62

ส่วนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1  กระแสข่าว “ฟาสแทร็ค” ในการส่งผู้บังคับหน่วยระดับกองพลขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 เงียบหายไป จึงเชื่อว่า “ตู่เล็ก” น้องรักของ “บิ๊กป้อม” น่าจะคุมบังเหียนเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1  ไปถึงช่วงปลายปี

แต่ในระดับ ผู้บัญชากกองพลหลักในขุมกำลังหลัก  ยังเป็นชี่อน้องรักของ “บิ๊กป้อม” ไล่ตั้งแต่ “บิ๊กโต” พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์   (ผบ.พล.ร.2 รอ.)  พล.ต.สนิธ ชนก   สังขจันทร์  ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ( ผบ.พล.ร.9)

“บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

  • จับตา ! เก้าอี้ “ผบ.ทบ.” เดิมพันสูง

แต่ที่หลายคนจับตามองขณะนี้  คือ การโยกย้ายทหารปลายปี ที่มีชี่อ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก  และการขยับขึ้นมาเป็นแผงของ เตรียมทหารรุ่น 20  ในทุกเหล่าทัพ  ซึ่งจะส่งผลให้ เตรียมทหารรุ่นอื่น เสียโอกาสขยับขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.

เพราะ “บิ๊กแดง” มีอายุราชการถึงปี  2563 ซึ่งหากขึ้นดำรงตำแหน่ง  ผบ.ทบ.ปลายปี 2561 นี้ก็จะอยู่ในเก้าอี้ผบ.ทบ.ยาวถึง 2 ปี   ขณะที่ “บิ๊กอ้อม” พล.อ.วีรชัย  อินทุโสภณ  ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เตรียมทหารรุ่น 18 (ตท.18 )   น้องรัก ของ “บิ๊กป้อม” ที่ถูกส่งมาจ่อ 5 เสือ ทบ.ก็จะพลาดหวัง เพราะมีอายุราชการถึงปี 62

จึงมีกระแสข่าวว่า  ตท.18  จับมือกับ ตท. 21  ซึ่งมี พล.ท.สุนัย ปะภูชเนย์  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.)  นายทหารรบพิเศษชื่อดังเป็นน้องรักของทั้ง บิ๊กเจี้ยบ และ บิ๊กป้อม เป็นตัวแปร  เพื่อสกัดเส้นทางขึ้นสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของ “บิ๊กแดง” ในช่วงปลายปีนี้  โดย “บิ๊กอ้อม” จะเข้าคิวขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ก่อน  ต่อด้วย “บิ๊กนัย”

พล.ท.สุนัย ปะภูชเนย์

แม้จะเป็นเพียงกระแสข่าว แต่อาจจะมี “มูล” เพราะการโตขึ้นมาเป็นแผงของ ตท.20 ภายใต้การนำ “บิ๊กแดง” นั้น มีการประเมินว่าจะมีการวางตัวเพื่อนร่วมรุ่นไว้ในตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง   อีกทั้ง “บิ๊กแดง” ยังมีบทบาทสำคัญถึงขนาดมองว่า ในปัจจุบันก็เปรียบเหมือน ผบ.ทบ.น้อย  เป็นทั้งที่ปรึกษาให้กับ “บิ๊กเจี้ยบ” และ ร่วมทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหารด้วย

ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับ “ข่าวลือ” ในเรื่องราวของ “บิ๊กแดง” จึงออกมาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งความสัมพันธ์เก่าๆ กับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” เพื่อนเก่าในฐานะที่เรียนปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐฯด้วยกัน และถูกลากโยงมาที่ธุรกิจสีเทาที่เกี่ยวพันกับตัวละครอีกหลายตัว  หรือ การมีภาพไปปรากฎที่สนามกอล์ฟตระกูล “สะสมทรัพย์” ร่วมกับ นายกรัฐมนตรี  และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ  ด้วยมีการปล่อยภาพไปสู่ “ฝ่ายตรงข้าม” พรางต้นตอตัวจริง

และอีกหลากหลายกระแสข่าว  อันเนื่องมาจาก “ดีลการเมือง” ที่เกิดจากความสัมพันธ์ในอดีตตั้งแต่รุ่นพ่อ  “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร  คงสมพงษ์  นายพลเสื้อคับ ที่ผู้มีอิทธิพล – เจ้าพ่อ – นักการเมืองตระกูลดัง  ต่างเกรงใจ

ในขณะที่ “บิ๊กแดง” ถือเป็นนายทหารมีความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงยิ่ง  มีจุดยืนล้าง “กลุ่มล้มเจ้า” อย่างชัดเจน   ที่ผ่านมา ถูกเขี่ยออกไปอยู่รอบนอกกรุงเทพฯ ในช่วงที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี  เพราะ “ไม่ไว้ใจ” และมองว่าเป็นแกนหลักในการจัดการ “ระบอบทักษิณ” เพราะมีส่วนไปสนับสนุน “พวกแดงล้มเจ้า”

เหล่านั้นเป็นกระแสข่าวที่ “โปรย”ออกมาก่อน ที่จะเข้าสู่การโยกย้ายใหญ่ปลายปี  และมีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารบกประมาณ สิงหาคม – กันยายน   ซึ่งที่ถือเป็น “เดิมพัน” ที่สูงยิ่ง

แม้ “บิ๊กแดง” จะเป็นสายแข็งที่ใครๆ ก็รู้ดี  ถือเป็น “เต็งหาม” ที่ใครก็โค่นยาก แต่ปฏิบัติการ “เปิดแผล” ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง  ไม่ต่างจากในอดีตที่ปมปัญหาขัดแย้งในกองทัพ  ถูกส่งผ่านไปสู่การเมือง เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กลับมาสู่กองทัพ  และนำไปสู่การพลิกโผในที่สุด…เดิมพันนี้สูงยิ่ง!!

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า