ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งข่าวที่กลายเป็นกระแสและสร้างความสับสนให้ผู้ติดตามข่าวในประเทศไทย คือเรื่องการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ข้าว หรือชื่อเต็มคือ “ร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. … “
โดยประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกและถูกนำไปพาดหัวโดยสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ระบุว่า หากชาวนาเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองหรือขายต่อ อาจติดคุก และถูกปรับเป็นแสน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของทีมข่าวเวิร์คพอยท์พบว่าประเด็นดังกล่าวมีความกำกวมและอาจไม่เป็นจริงดังที่สำนักข่าวดังกล่าวนำไปพาดหัว
โดยจากร่าง พ.ร.บ.ข้าวล่าสุด โดยคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าว ซึ่งถูกนำเข้าประชุมในวันที่ 7 ก.พ. 2562 พบว่าในมาตรา 27/1 วรรค 3 แม้จะมีการระบุว่า “การจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวจะจำหน่ายได้เฉพาะเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้รับการรับรองพันธุ์ข้าวแล้วเท่านั้น” แต่ในประโยคถัดมาได้มีการเขียนกำกับไว้ด้วย ว่าไม่ให้บังคับใช้เกณฑ์นี้กับชาวนาที่ปลูกข้าวและเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง
นั่นแปลว่าจากร่าง พ.ร.บ.ข้าวล่าสุด ไม่ได้มีส่วนใดที่ระบุว่าหากชาวนาเก็บพันธุ์ข้าวไปขายแล้วอาจมีโทษจำคุกหรือถูกปรับ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร่าง พ.ร.บ. จะกำหนดยกเว้นไม่บังคับใช้กับชาวนาที่ปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง แต่ ดร.นิธนธ์ พัวพงศกร จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ในทางปฏิบัติอาจทำให้ชาวนาขายเมล็ดพันธุ์ของตัวเองไว้ยากอยู่ดี เพราะว่าคนที่รับซื้อไปซึ่งไม่ใช่ชาวนา จะไม่สามารถนำเมล็ดพันธุ์ไปขายต่อได้ ทำให้คนกลุ่มนี้จะไม่ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากชาวนาตั้งแต่ต้น