คปภ.ลง ‘ทุ่งกุลาร้องไห้’ แจงความรู้ประกันนาปี ลดเสี่ยงขาดทุนย่อยยับ

คปภ.ลงพื้นที่ให้ความรู้และรับฟังข้อคิดเห็นเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.มหาสารคาม ด้านการประกันภัยข้าวนาปี เพื่อผลักดันเกษตรกรใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มความคุ้มกัน รับมือความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมด้วยสำนักงานเกษตร จ.มหาสารคาม และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ลงพื้นที่เกษตรกรต้นแบบบ้านเก่าน้อย หมู่ที่ 2 ต.หนองบัวแก้ว อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่มีชื่อเสียงของจังหวัด เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นเกษตรกรในการประกันภัยข้าวนาปี ประจำปี 2561

ในการขับเคลื่อนกลไกการประกันภัยพืชผล สร้างเครือข่ายกระจายความรู้ด้านการประกันภัย พร้อมผลักดันให้เกษตรกรไทยบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการประกันภัยข้าวนาปี และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยแก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนในพื้นที่นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดต่อให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี โดยอัตราเบี้ยประกันภัย 90 บาทต่อไร่ วงเงินความคุ้มครอง เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ปีการผลิต 2561 จะได้รับวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 1,260 บาทต่อไร่ สำหรับภัยธรรมชาติทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ และไฟไหม้

และวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 630 บาทต่อไร่ สำหรับภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด สำหรับการอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยของรัฐบาลจะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยทุกรายในอัตรา 61.37 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส. จะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยในส่วนที่เหลืออีก 36 บาทต่อไร่ สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ของ ธ.ก.ส. เฉพาะพื้นที่เพาะปลูกส่วนที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ศึกษาดูงานและเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้โดยเกษตรกรต้นแบบ ของสำนักงาน คปภ. ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านเก่าน้อย และพบปะเกษตรกรเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกันภัยข้าวนาปี มีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 200  คน พบว่าเกษตรกรยังขาดความเข้าใจในเงื่อนไขการรับประกันภัยและความคุ้มครองจากการประกันภัยข้าวนาปี

ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีการตอบข้อซักถามที่คาใจเกี่ยวกับการทำประกันภัยข้าวนาปี ช่วยให้เกษตรกรมีความเข้าใจและเห็นถึงความจำเป็นในการนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนในการปฏิรูปนโยบายการประกันภัยพืชผล และนำไปสู่การสร้างความมั่นคงในชีวิตและยกระดับรายได้ของเกษตรกรในประเทศต่อไป

ทั้งนี้ คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ทำหน้าที่ดูแลควบคุมดำเนินงานตามนโยบายด้านการประกันภัยที่กำหนด โดยคณะกรรมการ คปภ. มีหน้าที่กำกับและพัฒนาธุรกิจประกันภัยให้มีความมั่นคงเข้มแข็ง, ส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจประกันภัยให้แข็งแกร่ง เป็นระบบเศรษฐกิจสังคมของประเทศและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยที่คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย

หากผู้ทำประกันภัย ไม่ว่ากับบริษัทประกันภัยใด ประสบปัญหาด้านสิทธิ์ความคุ้มครองที่ไม่เป็นธรรม สามารถสอบถามหรือร้องเรียนได้ที่ สำนักงาน คปภ. ตั้งอยู่เลขที่ 22/79 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2515-3999 โทรสาร 0-2515-3970 หรือสายด่วน 1186