จากกรณีระหว่างการแถลงข่าวมาตรการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการปิดสถานบริการชั่วคราวในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล 14 วัน รวมถึง ฟิตเนส ด้วยหรือไม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ตอบเรื่องนี้ไม่ชัดเจนโดยบอกเพียงว่า
“เหงื่อก็คือสารคัดหลั่งอย่างหนึ่ง และเวลาหอบ เวลาออกกำลังจะมีละอองฝอย สารคัดหลั่งออกมา ตรงนั้นก็มีโอกาสติดได้ จึงต้องมีการทำความสะอาด ให้มีสุขอนามัย โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะ มีการใช้อุปกรณ์ร่วมกันของหลายๆ คน”
ต่อมา นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้จะมีมาตรการการปิดสถานบริการที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก แต่ฟิตเนสไม่ต้องปิด เพียงแต่ต้องมีมาตรการในเชิงป้องกันและดูแลตามมาตรฐานอย่างดี
มีการวัดไข้ก่อนเข้าฟิตเนส จัดให้มีระยะห่างเกิน 1 เมตร หมั่นทำความสะอาด มีเจลล้างมือ
การติดโควิด-19 แพร่เชื้อผ่านด้วยละอองฝอยขณะหายใจโดยการไอจามรดกันในระยะไม่ไม่เกิน 1 เมตร รวมถึงการไอจามออกมาแล้วสัมผัส ส่วนเหงื่อไม่สามารถแพร่เชื้อได้.
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร และใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ข้อ 35 (1) ปิดสถานที่ต่างๆ ดังนี้
1.สนามมวย 2.สถานบริการ 3.กิจการอาบ อบ นวด 4.สถานที่อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร 5.กิจการโรงมหรสพ และ 6.สถานที่ออกกำลังกายที่เป็นพื้นที่ปิด ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.เป็นเวลา 14 วัน
.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า การหยุดกิจกรรมต่างๆ อาจทำให้คุณค่าทางเศรษฐกิจเสียหาย แต่ขอให้ทุกคนคำนึงถึงคุณค่าของชีวิตก่อน เนื่องจากหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านไม่ตื่นตระหนก แต่ต้องอยู่ด้วยความตระหนัก เพราะความตระหนักคือทางเดียวที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ และเชื่อว่าประชาชนทุกคนจะสามารถฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน