SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาพจากทวิตเตอร์ The White Helmets

อาคารพังถล่มจากคลังอาวุธกลุ่มกบฏซีเรียระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก  

เกิดเหตุระเบิดภายในคลังอาวุธของฝ่ายกบฏซีเรีย ในเมืองซาร์มาดา จังหวัดอิดลิบ ประเทศซีเรีย ใกล้กับชายแดนตุรกี ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 12 คน

ขณะที่มีผู้สูญหายอีกนับสิบและคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ด้าน ฮาเติม อาบู มาร์วัน หนึ่งในอาสาจากกลุ่มป้องกันภัยพลเรือนซีเรีย หรือ กลุ่มไวต์เฮลเมตส์ กล่าวว่า อาคารที่มีประชาชนอาศัยอยู่เต็มได้พังทลายลงกลายเป็นเศษหินเศษอิฐ

กลุ่มไวต์เฮลเมตส์ระบุว่า ระเบิดปะทุขึ้นบริเวณชั้นล่างของอาคารแห่งหนึ่ง ที่ถูกใช้เป็นที่เก็บอาวุธของกลุ่มหติดอาวุธซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ หรือ อัลเคดา โดยแรงระเบิดทำให้อาคาร 5 ชั้นจำนวนสองหลังถล่มลงมา ประชาชนจำนวนมากถูกซากปรักหักพังฝังร่าง

ภาพจากทวิตเตอร์ The White Helmets

ตามรายงานระบุว่า ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พังถล่มจากแรงระเบิดในคลังอาวุธ เชื่อว่าเป็นชาวซีเรียพลัดถิ่นที่หลบหนีจากภัยสงครามในตอนกลางของจังหวัดฮอมส์

ทั้งนี้ ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการระเบิดอย่างแน่ชัด ว่าเกิดขึ้นมาจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากได้อย่างไร

สำหรับจังหวัดอิดลิบเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายที่สำคัญของฝ่ายกบฏซีเรีย และในขณะนี้รัฐบาลซีเรียกำลังสู้รบกับกลุ่มกบฏอย่างหนักหน่วงในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหวังจะยึดครองกลับคืนมาหลังจากที่กองกำลังรัฐบาลสามารถยึดคืนพื้นที่จากฝ่ายกบฏได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ภาพจากทวิตเตอร์ The White Helmets

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและอิหร่านในการปราบปรามกลุ่มกบฏหลายฝ่ายในประเทศ อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรต่างออกประณามถึงการกระทำดังกล่าวที่ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตจำนวนมาก

อย่างเช่นเหตุการณ์สะเทือนโลกเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 61 กรณีเหตุโจมตีทางอากาศด้วยอาวุธเคมี ในเมืองดูมา เขตกูตาตะวันออก ประเทศซีเรีย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 ราย และบาดเจ็บจำนวนหลายร้อยคน

ด้านรัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาว่านายอัสซาดอยู่เบื้องหลัง แต่ทางผู้นำซีเรียได้ออกมาปฏิเสธ และบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง อย่างไรก็ดี ในอีกไม่กี่วันต่อมา (14 เม.ย.) สหรัฐฯ พร้อมชาติพันธมิตรได้เปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรีย ตอบโต้การใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน

โดยการโจมตีครั้งนั้นใช้ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือรบจำนวน 57 ลูก และยิงขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้นจากเครื่องบินอีก 19 ลูก มุ่งเป้าถล่มอาคารศูนย์ศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (เอสเอสอาร์ซี) ในเขตบาเซะห์ ทางเหนือของกรุงดามัสกัส ที่สหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นสถานที่เก็บและผลิตอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย

แต่ภายหลังรัฐบาลนายอัสซาดออกมาเปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นเพียงศูนย์วิจัยพัฒนายาเพื่อผลิตยา เพื่อทดแทนการนำเข้า ไม่ใช่คลังอาวุธตามที่มหาอำนาจชาติตะวันตกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ซากปรักหังพังของอาคารศูนย์ศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (เอสเอสอาร์ซี)

ความขัดแย้งภายในประเทศซีเรียเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียระบุว่า กองทัพของประธานาธิบดีอัสซาดได้ทิ้งระบิดโจมตีพื้นที่ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎ และประกาศว่าจะยึดพื้นที่บริเวณติดพรมแดนจอร์แดน และบริเวณที่ราบสูงโกลันซึ่งอิสราเอลยึดครองอยู่คืนกลับมาให้ได้

ขณะที่สหรัฐฯ ย้ำเตือนถึงการกระทำดังกล่าว และหากยังใช้ความรุนแรงซีเรียต้องเผชิญกับผลกระทบที่รุนแรง

ความขัดแย้งของซีเรียไม่ได้เกิดขึ้นภายในประเทศเท่านั้น ประเทศเพื่อบ้านอย่างอิสราเอลและอีกหลายชาติใกล้กันก็มีการทำศึกกันอย่างต่อเนื่อง อย่างกรณีการปะทะกันระหว่างซีเรียกับอิสราเอล เมื่อ พ.ค. 61 หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามประกาศถอนตัวข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

โดยอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธอย่างหนักใส่ซีเรีย ใกล้กรุงดามัสกัสเมืองหลวง โดยเป้าหมายในครั้งนั้นหวังถล่มคลังเก็บอาวุธของกองทัพซีเรีย ซึ่งทำให้ทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียและนักรบอิหร่านพันธมิตรเสียชีวิต

แต่ทางซีเรียก็มีการตอบโต้ด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูกเช่นกัน โดยทางการอิสราเอลเชื่อว่าเป็นกองกำลังอิหร่านซึ่งเป็นพันธมิตรซีเรีย ซึ่งประจำอยู่บริเวณที่ราบสูงโกลันในฝั่งซีเรียเป็นผู้ยิง

สำหรับที่ราบสูงโกลันถือเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอิสราเอลและซีเรีย แต่ล่าสุดเมื่อช่วง ก.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏที่ยึดครองอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ยอมตกลงที่จะส่งมอบที่ราบสูงโกลันให้กับรัฐบาลซีเรีย

หลังจากฝ่ายกบฏได้ถูกกองกำลังรัฐบาลนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ปราบปรามจนต้องจำนน ซึ่งฝ่ายกบฏได้มีฐานที่มั่นอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดควิเนตรา และพื้นที่กันชนมานานหลายปี

ดังนั้น ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายต่อต้านครั้งล่าสุด ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของประธานาธิบดีอัสซาดตลอดช่วง 7 ปี แห่งสงครามกลางเมืองที่ผ่านมา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า