ตัวแทนชาวคลิตี้ล่าง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แสดงความดีใจ หลังได้ฟังคำตัดสินของศาลฎีกา ที่ให้บริษัทเอกชนจ่ายเงินค่าชดเชยกว่า 30 ล้านบาท ให้กับชาวบ้านที่ต้องรับสารตะกั่ว พร้อมฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้
วันนี้ (11 ก.ย.2560) ชาวบ้านคลิตี้ล่าง จ.กาญจนบุรี จำนวน 14 คน เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีชาวบ้าน 151 คน ยื่นฟ้องบริษัทตะกั่วคอนเซนเตรท (ประเทศไทย) ฐานละเมิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ที่ปล่อยปละละเลยให้สารตะกั่วปนเปื้อนลงในลำห้วยคลิตี้ ซึ่งชาวบ้านใช้อุปโภค บริโภคเป็นผลให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบต่อสุขภาพการใช้ชีวิต
โดยนายสุรพงษ์ กองจันทึก ผู้อำนวยการศูนย์กะเหรี่ยงและพัฒนา เปิดเผยหลังเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาว่า ศาลฎีกาพิพากษา ยืนตามศาลอุทธรณ์ ให้บริษัทตะกั่วคอนเซนเตรท จ่ายค่าชดเชยให้ชาวบ้านคลิตี้ล่าง 151 คน ฐานละเมิดพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ปล่อยปละเลยให้สารตะกั่วปนเปื้อนในลำห้วยคลิตี้ จำนวนกว่า 36 ล้านบาท พร้อมกับมีคำพิพากษาเพิ่มเติมให้ผู้จัดการบริษัท กรรมการบริษัทรวม 7 คน ต้องมาร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งต้องเข้ามาฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว
“เป็นระยะเวลากว่า 19 ปี ที่ตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนสารตะกั่วปริมาณมหาศาลที่รั่วไหลมาจากโรงแต่งแร่ ทำให้เจ็บป่วย พิการ และเสียชีวิต การฟ้องร้องดำเนินคดีของชาวบ้าน 151 คนกับบริษัทผู้ก่อมลพิษในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพิสูจน์บทบาทของกระบวนการยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของไทย ในการเยียวยาความทุกข์ของชาวบ้านคลิตี้ล่าง และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ให้ได้รับความเป็นธรรม ต่อเนื่องจากคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายของชาวบ้าน 8 คน และคดีปกครองฟ้องกรมควบคุมมลพิษให้ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้วก่อนหน้านี้ให้ชาวบ้านเป็นฝ่ายชนะคดี” นายสุรพงษ์ ระบุ
ทั้งนี้ในปี 2555 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้บริษัทตะกั่วคอนเซนเตรทฯ ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินรวม 36,050,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันฟ้องร้อง คือในปี 2550 ก่อนที่จำเลยจะยื่นอุทธรณ์ในชั้นฎีกา