SHARE

คัดลอกแล้ว

คืบหน้าคดีกลุ่มเยาวชนทำร้ายชายสติไม่สมประกอบ เสียชีวิตที่โคราช ชาวบ้านหวั่นกฎหมายไทยอ่อน เอาผิดเด็กไม่ได้ ด้านตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย รอผลชันสูตรจากแพทย์ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า นายประเสริฐ ใจเรือน อายุ 44 ปี ถูกทำร้ายร่างกาย นอนเสียชีวิตอยู่ที่ศาลาประชาคม หมู่บ้านพะเนา หมู่ที่ 1 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่า ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง จนศีรษะโชกไปด้วยเลือด ร่ายกายบอบช้ำอย่างหนัก ก่อนที่จะมีชาวบ้านแจ้งว่ามีเด็กอายุประมาณ 12-14 ปี ประมาณ 4-5 คน เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตได้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ล่าสุด วันที่ 27 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้าน ในหมู่บ้านพะเนา หมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าประชาชนหลายคน ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่างวิพากษ์วิจารถึงพฤติกรรมของเด็กๆ กลุ่มต้องสงสัยว่า เป็นภัยต่อสังคม และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยให้มาใช้ชีวิตอยู่ในชุมชน เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

โดยนายสุชาติ เทพศรี อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอาหารตามสั่ง หน้าศาลาประชาคมหมู่บ้านที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนเองเห็นเด็กๆ กลุ่มนี้วิ่งเล่นอยู่บริเวณหน้าร้านเป็นประจำ ซึ่งหลายครั้งที่มาส่งเสียงเอะอะโวยวาย สร้างความรำคาญให้กับคนในร้าน จนถูกตนไล่ให้ไปไกลๆ ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ ทราบว่านายประเสริฐฯ ถูกเด็กๆ กลุ่มนี้รุมทำร้ายอยู่ภายในวัดในชุมชน ก่อนที่จะมารุมทำร้ายต่อที่ศาลากลางประชาคม จนนายประเสริฐเสียชีวิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวเด็กกลุ่มนี้ไป ซึ่งมีอายุ 12 – 14 ปี ประมาณ 5 คน ไปที่ สภ.จอหอ แต่หลังจากนั้นแค่ 1 วันก็ปล่อยตัวออกมาเหมือนเดิม และยังได้ไปพูดคุยโอ้อวดให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังว่า ตัวเองฆ่าคนตายแล้ว ไม่เห็นจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เด็กกลุ่มนี้ย่ามใจก่อคดีอื่นๆ ได้อีก ตนเองจึงมองว่าการที่กฎหมายของไทยอ่อนเกินไป ก็อาจจะทำให้เยาวชนหันมาก่อเหตุรุนแรงเพิ่มยิ่งขึ้น จึงอยากให้เขียนกฎหมายให้รุนแรงมากกว่านี้

ด้านนางพิมพ์ เสนาจอหอ อายุ 82 ปี ชาวบ้านพะเนา หมู่ที่ 1 กล่าวว่า ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวเด็กๆ กลุ่มนี้ไปดำเนินคดีให้หมด เพราะถ้าอยู่ลอยนวลอย่างนี้ ก็จะก่อความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก คดีฆ่าคนเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้

นายบุญชู กองมา อายุ 77 ปี ชาวตลาดจอหอ กล่าวว่า นายประเสริฐ ผู้ตายถือว่าเป็นคนไม่มีพิษ ไม่มีภัยกับใคร และยังเป็นที่รักของพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดจอหอมาก เพราะชอบมาช่วยเหลือขนของให้กับคนในตลาด ทั้งนี้ตนไม่อยากให้คดีนี้จบลงด้วยการปล่อยตัวเด็กๆ ผู้ก่อเหตุออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนนางสมาน กองมา อายุ 72 ปี ชาวตลาดจอหอ กล่าวว่า รู้สึกสงสารนายประเสริฐมาก เพราะเป็นคนดีชอบช่วยเหลือชาวบ้านในตลาด ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ที่มาทำร้ายร่างกายนายประเสริฐจนเสียชีวิต ถือว่าเป็นเด็กเหลือขอ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้คนในพื้นที่แถวนี้สงบสุขต่อไป

ด้าน พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า คดีดังกล่าวตำรวจ สภ.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ได้ติดตามจับกุมเด็กชายอายุระหว่าง 12-14 ปี ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนเด็กก็รับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง ส่วนผลจากการทำร้ายร่างกายนั้นจะถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่ จะต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์ รพ.มหาราช นครราชสีมา ก่อน

จากนั้นตำรวจก็จะแจ้งข้อกล่าวหาแก่เด็กที่กระทำผิดต่อไป โดยตามขั้นตอนของกฏหมายจะต้องมีสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยเนื่องจากเป็นเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าตำรวจได้ดำเนินคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือเข้าข้างบุคคลใดทั้งสิ้น

ทั้งนี้จากการสอบประวัติเด็กที่ก่อเหตุเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ จับกุมตัวในข้อหาขโมยทรัพย์สินและก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนมาแล้ว แต่เมื่อตำรวจดำเนินคดีนำตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก ก็ถูกปล่อยตัวออกมา แล้วเด็กกลุ่มนี้ก็กลับมาก่อเหตุอีก

เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจึงสั่งการให้ตำรวจ สภ.จอหอ เพิ่มความถี่ในการตรวจตรา ทั้งสายตรวจจักรยานยนต์และรถยนต์ และขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้เข้มงวด ในการดูแลบุตรหลาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก พล.ต.ต.วัชรินทร์ฯ กล่าว

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า