ประเด็นคือ – จากเหตุการณ์สาวทอมถูกชายไม่ทราบชื่อ เตะตัดขาล้ม ก่อนตามเตะเสยหน้าสลบ ล่าสุดผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ลงพื้นที่ได้ข้อมูลจาก รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ เผย เตือนสาวทอมให้หลบ แต่ไม่ทัน
จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกัน ของผู้ชายที่ใส่เสื้อสีเหลือง เดินเข้ามาเตะตัดขาสาวทอมที่กำลังเดินคุยโทรศัพท์อยู่ข้างทางจนล้มลงกับพื้น ก่อนจะตามเตะต่อเข้าที่หน้าของสาวทอมอย่างแรงจนสลบ เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 61 ที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะสาวทอมเห็นเหตุการณ์ที่ผู้ชายคนนี้ทำร้ายผู้หญิงในบ้าน จึงเข้าไปห้ามและแจ้งตำรวจ ทำให้ผู้ชายคนนี้โกรธและตามมาทำร้าย ซึ่งสาวทอมอาการสาหัส ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
https://www.youtube.com/watch?v=fga2J2xOesU
วันที่ 27 มี.ค. 61 ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.ณัฐสิยา (ขอสงวนนามสกุล) ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.วชิรพยาบาล ได้รับบาดเจ็บขาหัก ใบหน้าบอบช้ำ จนไม่สามารถพูดคุยได้
ทั้งนี้ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ หมู่บ้านสินธานี 1 ซอยนวมินทร์ 93 กทม. พูดคุยกับ รปภ.ของหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า “ในวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฐสิยา ได้เดินลงจากรถมาหาเขาที่ป้อมยาม และได้เรียกตนเข้าไประงับเหตุคนทะเลาะกันในหมู่บ้าน แต่เขาได้ปฏิเสธ เพราะเป็นแค่ รปภ. จึงแนะนำให้โทรแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว
“เเล้วตนเห็นผู้ก่อเหตุได้พาลูกออกไปทานข้าวหน้าหมู่บ้าน พร้อมกับออกปากเตือน น.ส.ณัฐสิยา แล้วว่าให้หลบเข้าไปอยู่ในรถดีกว่า เพราะดูลักษณะแล้วเกรงว่าอาจจะถูกทำร้าย จังหวะเดียวกันชายเสื้อเหลืองผู้ก่อเหตุขับรถเข้ามาพอดี และลงจากรถเดินปรี่เข้าไปเตะรวบขาของ น.ส.ณัฐสิยา ที่กำลังยืนโทรศัพท์อยู่ พอ น.ส.ณัฐสิยาล้มลงก็เตะเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง จน น.ส.ณัฐสิยา นอนนิ่งไป
“ส่วนผู้หญิงเสื้อขาวนั้นมากับชายเสื้อเหลือง ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร และทราบภายหลังว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพื่อนกัน ฝ่ายชายพาภรรยาใหม่ไปเยี่ยมภรรยาเก่าและลูก แต่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันมาตั้งแต่ภายในบ้าน ซึ่งเขาก็ไม่ทราบว่า บ้านของภรรยาเก่าอยู่หลังไหน ที่ผ่านมาเคยเห็นชายเสื้อเหลืองเข้าออกหมู่บ้านบ่อยๆ”
ส่วนความคืบหน้าของคดีดังกล่าว สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว เผยว่า เบื้องต้นทราบตัวชายคนก่อเหตุแล้ว ทั้งหมดนั้นรู้จักกัน ในวันนี้ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาทำร้ายร่ายกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวค่อนข้างรุนแรง