คืบหน้า ! ‘เเคดดี้สาว’ ร้องสื่อ ถูก ‘ดาบตำรวจ’ ตบจนฟันกรามหัก คาโรงพัก

ประเด็นคือ – ดาบตำรวจที่ถูกกล่าวว่าตบเเคดดี้สาวจนฟันกรามหัก บนโรงพัก ยังเก็บตัวเงียบ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผย พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย  

จากกรณีเหตุการณ์ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สาวแคดดี้ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมห้องขัง ตบจนทำฟันกรามหักได้รับบาดเจ็บ ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 14 ต.ค. 60 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องราวดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้สั่งการให้ดาบตำรวจที่ถูกกล่าวหา ทำรายงานสำหรับเรื่องดังกล่าว พร้อมจะทำการตรวจสอบข้อเท็จ ทั้งตัวผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความผิดจริง จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามกระบวนการต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังดาบตำรวจคนดังกล่าว ได้รับคำตอบเพียงว่า ตอนนี้พาลูกมาโรงพยาบาลยังไม่สะดวกคุยในตอนนี้ จะเปิดเผยข้อมูลในภายหลัง

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 14 ต.ค. น.ส.เอ แคดดี้สนามกอล์ฟเเห่งหนึ่งที่พัทยา ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าห้องขัง สภ.พัทยา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค. แต่ตนเองรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางมาความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน

ซึ่ง น.ส.เอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เชิญตัวตนเองและเพื่อนมาที่ สภ.เมืองพัทยา เนื่องจากมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับชาวต่างประเทศ แต่เหตุการณ์กับตาลปัดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งการให้นำตัวไปคุมขังสงบสติอารมณ์ ตนเองคิดว่าไม่ผิดจึงส่งเสียงโวยวายไม่ยอมเข้าห้องขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าห้องขังจึงตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ ฟันกรามด้านซ้ายหัก ก่อนจะถีบเข้าห้องขัง เมื่อเห็นว่าตนเองได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจึงปล่อยตัวไปโรงพยาบาล

หลังจากเข้ารักษาตัวยังโรงพยาบาลเรียบร้อย ตนเองรับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ปฐมพงษ์ กรัณฑ์พิสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) จนตกลงไกล่เกลี่ยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับตน ซึ่งนัดชดใช้กันในวันที่ 13 ต.ค.

ต่อมาตนเองก็เดินทางมาพบเพื่อรับค่ารักษาพยาบาลกับเจ้าหน้าที่หน้าห้องขังคนดังกล่าว แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงปฏิเสธการชดใช้ ทั้งยังใช้วาจาที่ไม่สุภาพและขู่ว่า”หาก…ไม่จบ …จะแจ้งความกลับดำเนินคดีเช่นกัน” โดยเพื่อน น.ส.เอได้บันทึกภาพขณะที่เดินทางมาพบไกล่เกลี่ยกันไว้เป็นหลักฐานด้วย

น.ส.เอ ยังเปิดเผยเรื่องการกระทำผิดวินัยของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวว่า มีการรับเงินจากญาติผู้ต้องหา หากใช้โทรศัพท์จะต้องจ่ายเงินจำนวน 100 – 200 บาท และหากจะเยี่ยมผู้ต้องขังนอกเวลาที่ทางสถานีกำหนด จะต้องจ่าย 100-200 บาทเช่นกัน