ค้านศาลฎีกาเลือก กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ประเด็นคือ – กรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยล่าสุดว่ามี 2 พรรคการเมือง ที่ขอขยายเวลาในการส่งข้อมูลสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูก ว่าด้วยพรรคการเมือง

วันที่ 13 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้ทำหนังสือลงนามส่วนตัว และยื่นต่อประธาน กกต. เพื่อส่งเรื่องให้ประธานศาลฎีกา พิจารณาเหตุประชุมลับเลือกผู้เหมาะสมเป็น กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือในนามส่วนตัว ถึงนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ขอให้พิจารณาเรื่องการคัดเลือกกรรมการการเลือกตั้ง ในส่วนการคัดเลือกตัวแทน จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามาเป็น กกต. เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการลงมติลับ ขัดกับบทบัญญัติ มาตรา 12 ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย กกต. จึงควรทักท้วง เพื่อขอคำชี้แจง และพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้อง

พร้อมกันนั้น นายสมชัย ระบุว่าสภานิติบัญญัตแห่งชาติ ต้องนำประเด็นปัญหาไปประกอบการพิจารณาในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ด้วย เพราะ สนช. ก็สามารถส่งเรื่องคืนที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้

และด้วยข้อบัญญัติของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่จะครบกำหนดการแจ้งปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค 90 วัน ในวันที่ 5 มกราคม 2561 นั้น นายสมชัย ยังเปิดเผยว่า มี 2 พรรคการเมือง ที่ขอขยายเวลาแล้ว คือพรรคกสิกรไทย และพรรคประชาธิปไตยใหม่ รวมถึงกล่าวฝากเตือนไปยังพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อทำหนังสือขอขยายเวลาด้วย ก่อนนายทะเบียนพรรคการเมืองจะดำเนินการให้สิ้นสภาพไป

ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า พรรคจะมีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันส่งให้ กกต. ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ ซึ่งเข้าใจได่ว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรค สามารถเซ็นรับรองข้อมูลทั้งหมดได้ จึงยังไม่จำเป็นต้องทำหนังสือขอขยายเวลา

แต่นายไพบูลย์ นิติตะวัน แกนนำก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภา สนช. เพื่อขอให้แก้ไขกฎหมายลูก ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 140 และ 140 เพื่อสร้างความเท่าเทียมระหว่างพรรคการเมืองเก่าและใหม่ ทั้งกรณีการรับรองสมาชิกพรรคการเมือง และการจัดตั้งพรรคการเมือง พร้อมทุนประเดิมและค่าบำรุงพรรค ที่เป็นเรื่องยุ่งยากของพรรคจัดตั้งใหม่