Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผบช.สตม.แถลงข่าวจับกุมคนร้าย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ยึดรถโดยใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย ใช้กำลังรุมทำร้าย เบื้องต้นจับกุมได้ 5 ราย

วันที่ 6 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผบช.ภ.8 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างว่าเป็นพนักงานจากบริษัทไฟแนนซ์ รุมทำร้าย นายวัชรินทร์ เดชศรี เพื่อต้องการที่จะยึดรถ โดยประกอบไปด้วย นายสมชาย ทองมี อายุ 38 ปี, นายอรรถชัย ทองผุด อายุ 18 ปี, นายโกวิท ณ พัทลุง อายุ 25 ปี, นายธนศักดิ์ จารุกิจมนตรี อายุ 45 ปี และนายพฤทธ์ ทองศรีชุม อายุ 34 ปี หลังร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกหนี้โหด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน อ้างว่าเป็นพนักงานจากบริษัทไฟแนนซ์ รุมทำร้ายเพื่อต้องการที่จะยึดรถคันที่ นายวัชรินทร์ เดชศรี ชาว จ.กระบี่ ขณะกำลังขับรถถอยเข้าจอดบริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส สาขากระบี่ ต่อหน้าภรรยา, แม่ และลูกวัย 1 ขวบ ภายหลัง นายวัชรินทร์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ และมีการโพสต์วิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวลงในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดความหวาดระแวงต่อประชาชนทั่วไป ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทาเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ ศปอส.ตร. จึงร่วมกับ สภ.เมืองกระบี่ ได้ดำเนินการสืบสวนผู้กระทำความผิด จนทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุมีด้วยกัน 5 คนดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 นายสมชายฯ, นายอรรถชัย และนายโกวิท ได้เข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายธนศักดิ์ และ นายพฤทธ์ ยังคงหลบหนีไม่ยอมเข้ามามอบตัว พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งภายหลังทราบว่าได้ไปกบดานที่ จ.ตรัง จึงนำกำลังไปจับกุมพร้อมได้ตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วิธีการติดตามทวงหนี้มีหลายวิธี แต่วิธีการที่ใช้กำลังถือว่าไม่ถูกต้อง บ้านเมืองมีกฎหมาย ขณะเดียวกันเห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎหมาย และต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการดำเนินการไม่ใช่การใช้กำลังในการติดตามทวงหนี้ อย่างไรก็ตาม ฝากไปยังไฟแนนซ์ หรือลิสซิ่ง ที่ใช้บุคคลที่มีพฤติกรรมติดตามทวงหนี้ลักษณะเช่นนี้ ขอให้หยุด ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาคือ นายธนศักดิ์ จารุกิจมนตรี ถูกดำเนินคดีในคดีฉ้อโกง ซึ่งต่อมาได้หลบหนีการฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลได้ลงโทษจำคุก 13 เดือน อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการขยายผลกระบวนการนี้ว่ามีผู้ใดว่าจ้าง รวมทั้งจะดำเนินการตรวจสอบไฟแนนซ์ลิสซิ่งที่มีพฤติกรรมในลักษณะทวงหนี้ตามหนี้โดยใช้กำลัง ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังทำให้พบข้อมูลว่ามีกลุ่มไฟแนนซ์ ที่ดำเนินการผิดข้อบังคับของกระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินคดีกับไฟแนนซ์ที่ทำผิดเงื่อนไข

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผบช.ภ.8 กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการขยายผลว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งขณะนี้เราพบพยานหลักฐานที่ดำเนินคดี 5 ราย แต่หากมีพยานหลักฐานเพิ่มก็จะดำเนินคดีเด็ดขาด อีกทั้งจะขยายผลขั้นตอนการทวงหนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ หรือมีผู้เสียหายที่เป็นลูกหนี้ถูกพนักงานของทางไฟแนนซ์ยึดรถไป แต่ไม่นำส่งหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ

เบื้องต้น การกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด หรือใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310, 295, 83 และ 80 อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า