สรรพสามิตภาคที่ 9 จับรถขนน้ำมันเถื่อน 2 คัน ดำเนินคดี หลังราคาน้ำมันภายในประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีการลักลอบนำเข้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้รถช่วยสนับสนุนน้ำมันที่ถูกต้อง ซึ่งดีกว่าทั้งคุณภาพ ลดมลภาวะ และสร้างความเป็นธรรมต่อการจัดเก็บภาพต่อการจัดเก็บภาษีพัฒนาประเทศ
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 พ.ค. 62 ที่หน้าสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายมาโนช พิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ พร้อมด้วน นายจำแลง บัวสงค์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบป้องกันและปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 แถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน หรือกองทัพมด ได้จำนวน 2 ราย หลังจากมีการสืบทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อน
โดยรายแรกถูกจับได้ในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมยึดของกลางนำมันเบนซินเถื่อนที่บรรจุอยู่ในแกลลอนรวม 240 ลิตร ที่บรรทุกมากับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ แบบตอนเดียว สีบรอนซ์
และอีกรายสามารถตรวจยึดน้ำมันดีเซลเถื่อนบรรจุในแกลอนรวม 100 ลิตร ที่บรรทุกมากับรถกระบะ โตโยต้า สีดำ โดยจับกุมได้ในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ขณะที่คนขับรถทั้ง 2 ราย ถูกคุมตัวดำเนินคดี และเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายสรรพสามิตแล้ว พร้อมกับยึดของกลางน้ำมันเถื่อนทั้งหมด
นายจำแลง บัวสงค์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบป้องกันแลปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 เผยว่า ทาง นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และ นายธรรมศักดิ์ ลออเอี่ยม ที่ปรึกษาพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษี ได้มีคำสั่งให้มรการกวดขันทั้งในส่วนของการป้องกันปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีทุกชนิด
โดยเฉพาะในส่วนของนำมันเถื่อน ซึ่งขณะนี้ได้มีความพยายามลักลอบนำเข้าน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนต่างราคาที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจนประมาณลิตรละ 10 บาท และน้ำมันภายในประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้น
ซึ่งทางสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 และหน่วยงานในสังกัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการดำเนินมาตรการในการกวดขัน และกวาดล้างจับกุมทั้งในส่วนของกองทัพมด และผู้ขายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งที่ปรากฏเป็นข่าว และไม่เป็นข่าวก็มีอีกหลายคดี และโดยสถิติในปีงบประมาณ 2562 ตั้งแต่ ต.ค. 61-เม.ย. 62 สามารถยึดของกลางน้ำมันเซลได้ 130,900 ลิตร และเบนซิน 75,600 ลิตร โดยเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 10.39 ล้านบาท
รวมทั้งฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ใช้รถให้ความร่วมมือ และเติมน้ำมันถูกกฎหมายที่ผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการส่งเสริมน้ำมันเถื่อนแล้ว ยังจะไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำมันมีคุณภาพดีกว่าตามมาตรฐานยูโร 4 และส่งผลกระทบต่อมลภาวะน้อยกว่า รวมทั้งยังสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีไปใช้พัฒนาประเทศ ซึ่งประการสำคัญที่น้ำมันประเทศเพื่อนบ้านถูกกว่าน้ำมันภายในประเทศนั้น มีทั้งมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน และกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่แตกต่างกันด้วย และหากประชานจะแจ้งเบาะแสสามารถโรได้ที่สายด่วน 1713 หรือสำหนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 โทร.074-258781-4