จับสาวโกงแชร์ออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ผู้เสียหายกว่า 200 คน

บิ๊กโจ๊กแถลงข่าวจับกุมเท้าแชร์โกงแชร์ออนไลน์ มีผู้เสียหายกว่า 200 คน โดยพบว่ามีการทำเป็นขบวนการและหนีข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่เร่งทำการจับกุมทั้งหมดเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงข่าวจับกุม น.ส.นันท์นภัส หรือบีม ศิริกุลนันทวดี อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหาร่วมกันเป็นเท้าแชร์ จัดให้มีการแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์ผิดกฎหมาย และหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ มีจำนวนแชร์รวมกันมากกว่าสามวง มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคนและมีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้กฎกระทรวง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่อาจจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 30 คน เดินทางนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)​ เพื่อเอาผิด น.ส.นันท์นภัส ที่มีพฤติกรรมเปิดให้เล่นแชร์ออม รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ในชื่อบ้านคุณบีม โดยมีการถ่ายภาพบ้านหลังใหญ่ รถหรู สินค้าราคาแพง ลงโซเชียลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมาตลอดเวลา 1 ปี และอ้างว่าให้เงินปันผลสูง โดยในระยะแรกมีการจ่ายเงินปันผลตรงเวลา จึงทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก แต่เมื่อมีผู้เล่นแชร์เพิ่มมากขึ้นและเงินลงทุนมากขึ้น น.ส.นันท์นภัส ซึ่งเป็นเท้าแชร์จะมีอ้างว่าป่วย บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินตามกำหนดก่อนหลบหนีไป โดยมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท และมีผู้เสียหายกว่า 200 คน ซึ่งผู้เสียหายที่ถูกหลอกสูงสุดมากถึง 3 ล้านบาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากตำรวจได้รับแจ้งก็เร่งสืบสวนทันที และทราบว่ามีพฤติกรรมร่วมกันทำเป็นขบวนการ โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม น.ส.นันท์นภัส ขณะกำลังจะสร้างบ้านใหม่ ที่บ้านนาเลิ้ง หมู่7 ต.นาเลิ้ง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ส่วนเพื่อนร่วมขบวนการขณะนี้ทราบว่าหลบหนีไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมดในเร็วๆ นี้

เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ พร้อมอ้างว่ามีลูกแชร์บางรายจ่ายเงินไม่ครบตามจำนวน ตนต้องหาเงินมาหมุนเพื่อจ่ายค่าแชร์ ด้านเจ้าหน้าที่กำลังประสาน ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่ออายัดทรัพย์ ก่อนจะเร่งทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายทั้งหมด และนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป