จับสึก! พระวัดดังชุมพร เมาหนัก อาละวาด เสียงดังลั่นวัด

ชาวบ้านทนไม่ไหว แจ้งตำรวจคุมตัวพระวัดดัง หลังเมาเหล้าหนัก เสียงดังเอะอะโวยวาย พร้อมกับลงไปนอนกลิ้งกลางสนามหน้าวัด ตำรวจเห็นว่าไม่เหมาะสม ส่งตัวให้เจ้าคณะจับสึก ก่อนส่งหนังสือประกาศห้ามพระสงฆ์รูปนี้ไม่ให้บวชตลอดชีวิต

วันที่ 21 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร เข้าระงับเหตุ พระสงฆ์รูปหนึ่ง เมาส่งเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นวัด เเละพยายามขัดขืนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆนาๆ พร้อมกับนอนกลิ้งไปมาอยู่ที่หนามหญ้า หน้าวัดท่ายางเหนือ ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัวเป็นไปด้วยความทุลักทุเล หลังรับแจ้งจากชาวบ้าน

หลังตำรวจควบคุมตัวพระสงฆ์รูปนี้ยังคงอยู่ในอาการเมา ได้ตะโกนด่าตำรวจด้วยคำหยาบ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวพระสงฆ์ให้เจ้าคณะตำบลวัดปากน้ำชุมพร ทำการสึกจากความเป็นพระสงฆ์ ภายหลังทราบชื่อตามใบสุทธิบัตร“พระสมเกียรติอตตฺทีโป” สถานะเดิมชื่อ นายสมเกียรติ อายุ 45 ปี เดิมเป็นคนจ.เชียงใหม่ 

ช่วงที่เจ้าคณะตำบลทำพิธีสึกพระสมเกียรติ์ ยังคงอยู่ในอาการเมา และเอะอะโวยโวยด่าท่อด้วยคำหยาบเสียงดังลั่นวัด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล๊อกตัวไว้ เมื่อทำพิธีสึกขาดจาความเป็นพระเรียบร้อย ตำรวจได้นำตัวนายสมเกียรติ์ ไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง สภ.ปากน้ำชุมพร เป็นเวลา 1 คืน

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62 สภ.ปากน้ำชุมพร ได้นำตัวนายสมเกียรติ์มาสอบปากคำและทำประวัติบุคคลเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแจ้งไปยังวัดและสำนักสงฆ์ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อห้ามไม่ให้บุคคลนี้ได้กลับมาบวชเป็นพระสงฆ์สร้างความเสื่อมเสียต่อศาสนาได้อีก

จากการสอบสวนทราบว่า นายสมเกียรติ์บวช เป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ได้กว่า 1 ปี จากนั้นได้เดินทางมาขอจำวัดอยู่ที่วัดท่ายางเหนือประมาณ 2 เดือน มีพฤติกรรมชอบใช้แรงงานต่างด้าวและชาวบ้านที่มารับจ้างทำงานในละแวกวัด ไปซื้อเหล้ามาแอบดื่มอยู่เป็นประจำ จนกระทั้งวันเกิดเหตุเมาเหล้าอย่างหนัก จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวนายสมเกียรติ์ ออกจากห้องขังให้กลับบ้านต่อไป โดยไม่ได้แจ้งข้อหาหรือดำเนินคดีใดๆ

ขณะที่ นายสมเกียรติ์ กล่าวว่า ปกติตนไม่เคยดื่มเหล้า ที่ผ่านมาเพิ่งจะดื่ม 2 ครั้ง เท่านั้นเอง ส่วนครั้งนี้ได้มีแรงงานซึ่งเป็นกรรมกรก่อสร้างใกล้กับวัดได้ไปซื้อเหล้าใส่ขวดน้ำพลาสติกมาให้ ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าในขวดมีเหล้ามากน้อยขนาดไหน แล้วนำเข้าไปนั่งดื่มคนเดียวภายในกุฎิ จนมาถูกจับสึกดังกล่าว หลังจากนี้ก็คงจะเดินทางกลับบ้านที่เชียงใหม่ต่อไป