จับแก๊งยานรก ลอบขนกัญชา 785 แท่ง ข้ามโขงเข้าไทย มูลค่ากว่า 12 ล้าน

นรข.สถานีเรือรัตนวาปี จ.หนองคาย สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน จับ 2 ผู้ต้องหาไทย-ลาว พร้อมกัญชา 785 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขณะเตรียมส่งต่อลงภาคใต้

วันนี้ 24 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีเรือรัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย น.ต.อัศวิน อุยสีรักษ์ หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี, เจ้าหน้าที่ นรข.รัตนวาปี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนวาปี, ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.หนองคาย, เจ้าหน้าที่ ตชด. , ตม.หนองคาย, ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ท้าวมน ชูรัด อายุ 36 ปี ชาวลาว และ นายจีรศักดิ์ แสวงศรี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 7 ต.บ้านต้อน อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย พร้อมกัญชา จำนวน 785 แท่ง น้ำหนักรวม 785 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ แบบตอนเดียว สีเทา หมายเลขทะเบียน บห 6654 ราชบุรี

การจับกุมกัญชาครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา น.ต.อัศวิน อุยสีรักษ์ หัวหน้าสถานีเรือรัตนวาปี ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงข้างสถานีสูบน้ำบ้านต้อน เขตรอยต่อพื้นที่ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย กับ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผนจับกุม โดยได้มีการจัดแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกเข้าไปดักซุ่มอยู่ใกล้บริเวณที่ได้รับแจ้ง อีกชุดเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วดักซุ่มอยู่ห่างกันจากชุดแรกไม่มากนัก ผ่านไป 2 วันเข้าวันที่ 3 ที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ก็ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหว คาดขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจะไหวตัวทัน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดที่ดักซุ่มจึงได้ซ้อนแผนทำเป็นถอนกำลังกลับหน่วย ไม่ถึง 10 นาที ก็มีเรือเพลายาว (หางยาว) แล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านบนเรือมีกระสอบหลายกระสอบและมีชายหลายคนนั่งมาด้วย มาจอดริมฝั่งโขงพร้อมขนกระสอบลงจากเรือ และในเวลาใกล้เคียงกันก็มีรถกระบะวิ่งเข้ามาจอด กลุ่มชายที่มากับเรือได้ขนกระสอบขึ้นบนรถ พร้อมขึ้นเรือแล่นกลับไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น และสามารถควบคุมตัว ท้าวมน ไว้ได้ จากการตรวจค้นอย่างละเอียด พบกระสอบที่มีกัญชาซุกซ่อนอยู่ภายใน จำนวน 18 กระสอบ รวมกัญชา จำนวน 785 แท่ง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ จากนั้นก็ได้มีการขยายผลตามไปจับกุมตัว นายจีรศักดิ์ ได้ที่บ้าน

จากการสอบถามเบื้องต้น ท้าวมน บอกว่าตนได้รับการติดต่อจาก ท้าวน้อย ชาวลาวที่รู้จักกัน บอกให้มาเฝ้ารถขนของ โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท หลังจากที่มีคนมาขับรถไปแล้ว ตนไม่รู้ว่าสิ่งที่ให้เฝ้าเป็นกัญชา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วน นายจีรศักดิ์ ผู้ต้องหาอีกคนยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่พบว่า นายจีรศักดิ์ จะเป็นคนขับรถนำกัญชาไปส่งที่ภาคใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนวาปี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป