SHARE

คัดลอกแล้ว

ตะลึงเขตฯทุ่งใหญ่ หน.วิเชียร ชินวงศ์ สั่งลาดตระเวน ทางน้ำกลางป่า รวบ 3 ผู้ต้องหา พร้อม ของกลาง ปลาคัง ปลาแข้ยักษ์ ปลาแดงล้วนราคาแพงเต็มลำ พร้อมอาวุธปืนติดเลเซอร์ ยาบ้า อุปกรณ์หาปลาเพียบ

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหา ชาวไทย 2 คน และเมียนมา 1 คน พร้อมของกลาง เรือ 3 ลำ ปลาคัง-ปลาแข้ยักษ์ พร้อมอาวุธปืนติดเลเซอร์ ยาบ้าจำนวนหนึ่ง และอุปกรณ์หาปลา ลักลอบนำเรือเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบโซนโป่งหอม-แก่งน้ำโจน ซึ่งอยู่ในลำน้ำแควใหญ่ ท้องที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

หลังจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวิเชียร  ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบกลุ่มนายพรานนำเรือพร้อมอุปกรณ์ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์น้ำภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ โดยผิดกฎหมาย บริเวณพื้นที่รับผิดชอบโซนโป่งหอม-แก่งน้ำโจน ที่ไหลลงสู่ลำน้ำแควใหญ่ เขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และเป็นพื้นที่รอยต่อเนื่องกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

นายวิเชียร จึงสั่งการให้นายปิยะพงษ์ สืบเสน นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ จัดชุดลาดตระเวน (ส่วนกลาง) ไปตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง

จนกระทั่งวันที่ 20 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนทีมที่ 1 ได้ตรวจพบเรือหางยาวพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 3 ลำ จอดอยู่ในลำน้ำแควใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการดักซุ่มเพื่อรอจับกุมกลุ่มนายพราน โดยให้ชุดลาดตระเวนทีมที่ 2 เตรียมเรือสกัดกั้นบริเวณจุดสกัดห้วยคือล่าง  และประสานขอกำลังสนับสนุนจาก เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเข้ามาช่วยเหลือ

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 21 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มนายพรานล่าปลาเป็นชาย 3 คน กำลังหาปลาอยู่ใกล้กับเรือที่จอดเอาไว้อยู่คนละฝั่งลำห้วยกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงยังไม่สามารถเข้าไปควบคุมตัวได้ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาบ่ายโมง ชายทั้งสามคนได้ขับเรือมุ่งหน้าเดินทางกลับ

ส่วนชุดลาดตระเวนทีมที่ 2 ส่วนกลางและเจ้าหน้าที่จุดสกัดห้วยคือล่าง ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าองทั่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้นำเรือจำนวน 3 ลำ ออกติดตามโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งสกัดกั้นเส้นทางลำน้ำเอาไว้ เพื่อปิดล้อมจับกุม จนในที่สุดเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 22 ต.ค.61 พบเรือทั้ง 3 ลำ ออกมาจากจากทางแก่งน้ำโจน  เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมกับเข้าควบคุมตัวนายพรานล่าปลา พร้อมเรือทั้ง 3 ลำเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบพบเรือลำที่ 1 มีนายใจ (ไม่มีนามสกุล) ชาวเมียนมา อายุ 26 ปี ภายในเรือพบของกลางประกอบด้วยปลาคัง ปลาแข้และปลาแดง จำนวน 8 ตัว น้ำหนักรวมกัน  99  กิโลกรัม อุปกรณ์ที่ใช้หาปลาประกอบด้วย แห 1 ปาก ไฟฉาย 1 กระบอก เบ็ดราว 60 ตัว  เชือกไนล่อน 1 ม้วน

เรือลำที่ 2 คนขับคือนายเรืองกิจ  จินจารักษ์ ชาว ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ภายในเรือพบของกลางประกอบด้วย ปลาคัง 4 ตัว ความยาว ตั้งแต่ 80-170 เซนติเมตร แต่ละตัวมีน้ำหนักประมาณ 75 กิโลกรัม เบ็ดราว 45 ตัว  หม้อสนาม 1 ใบ ไฟฉาย 3 กระบอก เชือกไนล่อน 1 ม้วน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นพบ ยาบ้า 75 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน จำนวน 10 นัด เลเซอร์สำหรับติดปืนยาว 1 อัน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า อาวุธปืนดังกล่าวได้ยืมมาจากนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่อยู่ในเขต จ.กาญจนบุรี

และเรือลำที่ 3 คนขับคือนายไชยันต์ วิทยายนต์ ของกลางประกอบด้วย ปลาคัง ปลาแข้ ปลากด และปลาแดง รวมจำนวน 6 ตัว น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม อุปกรณ์หาปลา แห 1 ปาก  เบ็ดราว 20 ตัว และ เชือกไนล่อน 1 ม้วน

ดังนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535  สำหรับความผิดตาม พรบ.อาวุธปืนฯ และ พรบ.ยาเสพติดฯ คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ได้ขอให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 คน ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ครั้งสำคัญ เนื่องจากปลาแข้ ที่ตรวจยึดเอาไว้ได้นั้น เป็นชนิดปลาที่ถือว่าหายาก และมีราคาแพง โดยนิยมนำไปทำอาหารประเภท ลาบ ลวกจิ้ม และต้ม โดยปลาชนิดดังกล่าว เป็นที่รู้จักของผู้คนไม่มากนัก ซึ่งนายวิเชียร ชินวงศ์ ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดให้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบในทุกระดับชั้นแล้ว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า