“จาตุรนต์” ชูธงไทยรักษาชาติ ชี้ขาดฝ่ายประชาธิปไตยชนะ

พรรคไทยรักษาชาติประกาศแนวทางหยุดการสืบทอดอำนาจ เพื่อได้รัฐบาลที่แก้ปัญหาได้ตรงความต้องการประชาชน “จาตุรนต์” เผยเตรียมนโยบายไว้แล้วแต่ยังไม่เปิดเผยกลัวถูกลอกอีก

วันที่ 13 ธ.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พรรคไทยรักษาชาติ จัดประชุมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครจากทั่วประเทศ โดยมี ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ แกนนำและสมาชิกพรรคเข้าร่วม

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคไทยรักษาชาติเป็นฝ่ายประชาธิปไตย มีภารกิจสำคัญร่วมหยุดสืบทอดอำนาจ พรรคจะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้   ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่งดังนั้น เราจะร่วมกับประชาชนแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตย แต่จากการวางกลไกให้แก้ไขยาก เราจึงจะไม่รีบเปิดประเด็นให้สังคมขัดแย้งแต่จะให้ประชาชนเห็นพ้องต้องกัน แล้วเราจะเป็นพรรคแรกที่กระโดดไปร่วมแก้ไข

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ขอพูดในหัวข้อทำไมรัฐบาลเผด็จการจึงทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ทำไมรัฐบาลประชาธิปไตยทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นอย่างไร พรรคไทยรักษาชาติ มีแนวคิด “โลกต้องก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน” แต่ปัจจุบันนี้ “โลกก้าวไกลไปแล้ว แต่ไทยก้าวไม่ทัน” ประเทศไทยเรายังจมอยู่กับการย่ำอยู่กับที่ อยู่กับการถอยหลังกว่าหนึ่งทศวรรษมานี้ เราอยู่กับการยื้อกันระหว่างการที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นประชาธิปไตยกับการที่จะดึงประเทศให้ถอยหลังให้กลับไปเป็นรัฐเผด็จการ

ประชาธิปไตย เป็นระบบที่ให้ประชาชนเลือกรัฐบาลของตนเอง เพื่อตอบสนองความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชน ทำให้ประชาชนกินอิ่มมีรายได้แต่มีคนพยายามยื้อให้เป็นเผด็จการ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐประหาร 49 รัฐประหารปี 57 และต่อเนื่องมาจนวันนี้

เรามาอยู่ในระบบการปกครองที่ถอยหลังไปไม่น้อยกว่า 40-50 ปี และจะให้อยู่อย่างนี้ไปอีก 20 ปี อยู่ในสภาพที่นานาชาติไม่ยอมรับ เราเป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศ ที่ปกครองด้วยรัฐบาลทหาร เราถูกปกครองโดยผู้นำที่ขาดความรู้ ประสบการณ์ ไม่มีวุฒิภาวะ ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ไม่สามารถตรวจสอบการบริหารประเทศได้ ประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพ แม้แต่จะเสนอความคิดเห็น หรือสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ในช่วงท้าย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ตนจะยังไม่พูดถึงนโยบายเพราะกลัวจะถูกคนก็อปปี้ จึงขอพูดเพียงแนวทางและทิศทางใหญ่ โดยจะต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศ เปลี่ยนแนวคิดการบริหารจากอำนาจนิยม เอื้อต่อทุนขนาดใหญ่ เป็นประชาธิปไตยที่ฟังความเห็นประชาชนดูแลทั้งระบบ สร้างการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ดูแลโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจใหม่

“เราต้องหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ถ้าจะแก้ปัญหาประเทศนี้ ต้องมีรัฐบาลที่มาจากประชาชน ที่ต้องสนองความต้องการของประชาชน และแก้ปัญหาของประชาชน ต้องมีรัฐบาลประชาธิปไตยที่แก้ปัญหาปากท้องของคนส่วนใหญ่ เพื่อทำให้คนทุกคนสามารถจะทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง และมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ต้องให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าทันสมัยในยุคเทคโนโลยีก้าวกระโดด “