จ่อทุบปูนสะพานทรุดทิ้ง หลังถล่มทับคนงานสาหัส

ประเด็นคือ – จ่อทุบปูนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท หลังถล่มทับคนงานสาหัส ขณะที่รอ วสท. สรุปความปลอดภัย ภายใน 7 วัน 

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ความคืบหน้ากรณีแผ่นปูนคอสะพาน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท ถล่มลงมาทับรถปูนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย และมีอาการสาหัส จำนวน 3 คน ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งให้หยุดงานก่อสร้างเพื่อให้วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าตรวจสอบและประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัย เป็นเวลา 30 วันนั้น

ล่าสุด นายประภณ บัวสร้วง วิศกรผู้ควบคุมโครงการ เปิดเผยว่า หลังจากที่ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท.เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความเสียหายทางกายภาพ ได้ข้อสรุปว่า วสท.จะเร่งสรุปความเสียหาย และทำแผนการทุบทำลายแผ่นคอนกรีตที่หล่นลงมา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อสาเหตุการถล่ม ซึ่งคาดว่าจะสรุปแผนงานได้ทั้งหมดภายใน 7 วัน

หลังจากนั้นทางโครงการจะนำเครื่องจักรเข้าพื้นที่ เพื่อทุบสกัดแผ่นปูนขนาด 12×14 เมตร ให้แยกเป็นชิ้นขนาดเล็กเพื่อขนออกไปทิ้งนอกพื้นที่ ซึ่ง วสท.ก็จะประเมินแผนงานด้านความปลอดภัย และทางโครงการน่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่เหลือได้ทันที หรือเร็วที่สุดตามความเห็นของ วสท. เพราะเหตุการณ์ถล่มครั้งนี้ เป็นส่วนของแผ่นปูนที่แยกอยู่เป็นเอกเทศบนค้ำยัน ไม่เกี่ยวกับโครงสร้างหลักของตัวสะพาน

ทางด้านความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนได้เรียกตัว นายประภณ บัวสร้วง วิศวกรโครงการ เข้าสอบสวนให้ปากคำแล้ว โดยแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี พร้อมทั้งจะนัดเข้าสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่หน่วยงานด้านความปลอดภัยตรวจสอบและสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของอุบัติเหตุครั้งนี้อีกครั้ง

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย สามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว 1 ราย และยังคงนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรอีก 2 ราย ที่ผ่าตัดหัวเข่า 1 ราย ผ่าตัดเพื่อต่อเอ็นข้อมือที่ขาด 1 ราย และอีก 1 ราย มีอาการกระโหลกร้าวซึ่งเป็นคนที่อาการหนักที่สุด รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลใน จ.นครสวรรค์ โดยทางบริษัทผู้รับเหมายืนยันว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายการรักษาตัวของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดอย่างเต็มที่ จนกว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ