ประเด็น – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมออก พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ โดยผู้ประกอบการที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ ต้องจ่ายค่าน้ำตามที่กำหนด คาดบังคับใช้ได้ ตุลาคม- พฤศจิกายน นี้ การเกษตร – โรงแรม – สนามกอล์ฟ – อุตสาหกรรมใหญ่ ฯลฯ โดนด้วย
นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวถึงกรณีการจัดทำร่าง พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ…. ว่า รัฐบาลกำลังผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากว่าปัจจุบันทรัพยากรน้ำในประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ความเสี่ยง ซึ่งอาจไม่เพียงพอได้ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยคาดว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวได้ในช่วงเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2560 นี้
เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมของแหล่งน้ำในที่สาธารณะ คือ แม่น้ำ คลอง บึง น้ำใต้ดิน ทะเลสลาบ รวมทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติอื่นๆ ที่รัฐสร้างหรือพัฒนาขึ้น ซึ่งใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้กำหนดค่าใช้น้ำดังกล่าวไว้ 3 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 การใช้น้ำเพื่อดำรงชีพ ไม่เก็บค่าใช้น้ำ
ประเภทที่ 2 การใช้น้ำเพื่อการเกษตร เลี้ยงสัตว์ เพื่อการพาณิชย์ เก็บค่าใช้น้ำไม่เกิน 50 สตางค์/ลูกบาศก์เมตร การใช้น้ำเพื่อการท่องเที่ยว โรงแรม สถานที่พักผ่อน ร้านอาหาร เก็บค่าใช้น้ำ 1 – 3 บาท/ลูกบาศก์เมตร การใช้น้ำเพื่อธุรกิจสนามกอล์ฟ การประปาสัมปทาน เก็บค่าใช้น้ำไม่เกิน 3 บาท/ลูกบาศก์เมตร
ประเภทที่ 3 การใช้น้ำสำหรับภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกิจการอื่นๆ ที่ใช้ปริมาณน้ำมากตามมติของ กนช. เก็บค่าใช้น้ำไม่ต่ำกว่า 3 บาท/ลูกบาศก์เมตร
เบื้องต้นขั้นตอนการเสียค่าน้ำ ผู้ประกอบการจะต้องแจ้งไปยังหน่วยงานว่าใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะในปริมาณเท่าใด และแต่ละผู้ประกอบการใช้น้ำเข้าข่ายประเภทใด จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินค่าใช้น้ำ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำร่าง พ.ร.บ.
ภายหลังการบังคับใช้แล้ว ภายใน 180 วันจะมีการออกกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ โดยจะเปิดรับฟังเสียงความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะอัตราการเก็บค่าน้ำดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนออกเป็นกฎกระทรวง