ประธานชมรมคนรักสัตว์ป่าและชาวบ้าน เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งออกมาแก้ปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบระหว่างคนกับช้างมากยิ่งขึ้น หลังเกิดเหตุช้างป่าเข้าทำร้ายชาวบ้านในอ.ท่าตะเกียบ จนเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ขณะเฝ้าไร่สับปะรดเพียงลำพัง
เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 21 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้รับเเจ้งว่า นายเอก หอมหวล อายุ 73 ปี ชาวบ้านเขากล้วยไม้ ในอ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ถูกช้างป่าคาดว่าอย่างน้อย 2 ตัวทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะนอนเฝ้าไร่สับปะรด
ถือเป็นการเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน หลังก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ขณะกลับจากการปฏิบัติการขับไล่ช้างป่า ที่เข้ามาในหมู่บ้าน
ขณะที่ชาวบ้านยังคงเรียกร้องให้มีการผลักดันช้างให้กลับคืนสู่ป่ามานานหลายปี แต่ทุกวันนี้ยังคงมีช้างหากินอยู่ในพื้นที่ทางการเกษตร และยังไม่มีแนวโน้มว่าหน่วยงานใดจะสามารถแก้ปัญหาได้
ล่าสุด นายบดินทร์ จันทศรีคำ ประธานชมรมฅนรักสัตว์ป่า เปิดเผยถึง กรณีที่ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตครั้งนี้ มาจากการที่ช้างถูกไล่ มาจากพื้นที่หนึ่งมายังพื้นที่เกิดเหตุ ประกอบกับเป็นช่วงที่ช้างมีอาการเครียด เมื่อเจอผู้ตายขับไล่ซ้ำจึงหันมาทำร้าย
ส่วนการแก้ปัญหาตลอดระยะ 20 ปีที่ผ่านมา นายบดินทร์มองว่า ภาครัฐขาดความต่อเนื่อง ทั้งการสำรวจประชากรช้าง จัดการแหล่งน้ำ แหล่งอาหารในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทำให้ทุกวันนี้ แก้ปัญหาเพียงเฉพาะหน้า โดยหนึ่งในการแก้ปัญหาระยะยาว อาจต้องปรับเปลี่ยน การปลูกพืช ที่ไม่ใช่พืชอาหารช้าง มาพิจารณาด้วย
เช่นเดียวกับเรื่องการบุกรุกพื้นที่อุทยาน ซึ่งเป็นพื้นที่อนุโลม ที่นายบดนทร์มองว่า รัฐบาลต้องมีการเอาจริงเอาจัง มีขอบจำกัดว่าคนที่อาศัย สามารถอยู่ได้แค่ไหน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งพื้นที่ทับลาน แก่งหางแมว และเขาท่าตะเกียบต่อเนื่องถึงสนามชัยไขต จังหวัดฉะเชิงเทรา