ชัชชาติ ย้ำ เลือกตั้งครั้งนี้เเพ้ไม่ได้ ! โชว์วิสัยทัศน์ เเก้ปัญหาทางการเกษตร

ชัชชาติ ประกาศจะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้ อย่าให้พวกอ้างการเลือกตั้งใช้เป็นทางลัดเข้ามาบริหารประเทศ เพื่ออนาคตลูกหลานต้องพัฒนาการศึกษา พร้อมอาสาแก้ปัญหาเกษตร ชูเกษตรทางเลือกสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร และเรื่องปัญหาสุขภาพของประชาชน

วันที่ 22 ม.ค. 62 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 3 มหาสารคาม  ริมถนนสายพยัคฆภูมิพิสัย-พุทไธสง ต.ปะหลาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เขต 3 มหาสารคาม พร้อมด้วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการการะทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้สมัครเขต 3 มหาสารคาม นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอดิศร เพียงเกษ นายสุทิน คลังแสง ได้ขึ้นปราศรัยหาเสียง โดยมีชาวบ้านมาประมาณ 2,000 คน

นายชัชชาติ ได้ขึ้นปราศรัยว่า ถนนที่ด้านหน้านี้ นายยุทธพงศ์ได้มาชวนตนดูว่าเป็นถนนสายหลัก จึงได้หางบประมาณมาสร้างถนนเป็นสี่เลนเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางสะดวก แต่ปัญหาพืชผลทางการเกษตรของเราที่ผ่านมานี้มีปัญหาภัยแล้ง นา 10 ไร่ ได้ข้าวแค่ 3 กระสอบ เนื่องจากการทำนาข้าวได้ผลผลิตไม่ดี ซึ่งการขายข้าวมี 3 มิติ คือ ราคาขายข้าว ผลผลิตต่อไร่ และต้นทุนการผลิต แต่ราคาขายข้าวเกษตรกรควบคุมไม่ได้ เพราะตลาดโลกเป็นคนกำหนด ดังนั้นมี 3 วิธีที่จะแก้ปัญหาราคาข้าวคือ การพยุงราคาข้าว การลดต้นทุน และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่

นอกจากนั้นคือการหารายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร เช่น หมู่บ้านนี้ที่มีน้ำบาดาลดี จึงดึงน้ำบาดาลขึ้นมาปลูกผักปลอดสารพิษได้ ซึ่งมีทางเลือกอื่นอีกมากที่จะมาช่วยเสริมรายได้ และรัฐบาลเองต้องเข้ามาช่วยเหลือและให้ความรู้ ต้องไปดูสถิติการส่งออกข้าวสารต่อไร่ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกจาก 10 อันดับ สูงกว่าเมียนมา ประเทศเดียว แสดงว่าผลผลิตต่อไร่ต่ำราคาข้าวต้องขายให้เป็น ต้องเพิ่มผลผลิตให้ได้ ส่วนเรื่องน้ำที่เราไม่แค่ 40 % ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ต้องไว้ใจเพื่อไทย จะมาแก้ไขปัญหาต้องนี้ให้

ส่วนเมื่อวาน (21 ม.ค.) ได้ลงไปเยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษ ชุมชนบ้านหนองบัว ต.นาภู อ.ยางสีสุราช สวนผักนี้เป็นการลงทุนลงแรงร่วมกันของชุมชนปลูกผักส่งให้ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ หลังที่ทำนาข้าวแล้วไม่ได้ผลผลิตและรายได้ที่แน่นอน จึงหันมารวมกัน 18 ครัวเรือน ปลูกผักปลอดสารพิษ 25 ไร่ สัปดาห์หนึ่ง 150 กก. ตามความต้องการของท้องตลาด สร้างรายได้สัปดาห์ละเป็นหมื่นบาท แปลงผักมีวิธีการจัดการที่น่าสนใจ และรัฐบาลชุดหน้าจะเข้ามาลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ให้ทุกคนเท่าเทียมกันทั้งการเกษตร การศึกษา และสาธารณสุข

การมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจาก ตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. นำปัญหาของประชาชน นำเสนอเข้ามาแก้ไขในคณะรัฐมนตรีอย่างตรงจุด โดยนายชัชชาติสัญญาว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลรายได้สินค้าเกษตร การรักษาพยาบาล การศึกษาให้เท่าเทียม เพราะมันคือประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน

นายชัชชาติ ย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เป็นการแข่งขันกันระหว่างประชาธิปไตยกับพวกเผด็จการที่ปลอมตัวมาเป็นนักประชาธิปไตย การเลือกตั้งครั้งนี้จึงแพ้ไม่ได้ ถ้าเราได้ 250 เสียง จาก 500 เสียง แค่นี้ก็ไม่พอ เพราะเราต้องและต้องได้ ส.ส. 375 คน เนื่องจากรัฐบาลมี ส.ว.อีก 250 คนที่มีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกไว้ด้วย  นี่คืออนาคตของประเทศ  ไม่ใช่พวกที่เอาการเลือกตั้งมาเป็นทางลัด เพื่อเข้ามาบริหารประเทศ พวกที่ไม่เลื่อมใสประชาธิปไตย อยากให้พี่น้องออกมาเลือกตั้ง ให้ชนะได้เกิน 375 เสียง แต่ไม่ใช่เพียงช่วยเราหรือช่วยพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการช่วยระบบประชาธิปไตยให้ไปรอด เพื่ออนาคตของลูกหลาน และเพื่ออนาคตของประชาธิปไตยในประเทศไทย

ในช่วงเช้า นายชัชชาติ เดินทางไปไหว้พระบรมธาตุนาดูน และตีฆ้องขอพร จากนั้นกลับมาพบปะประชาชนในตลาดสด เขตเทศบาลตำบลปะหลาน พ่อค้าแม่ค้า ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าภายในตลาดสด ซึ่งส่วนใหญ่ต่างสะท้อนปัญหาปากท้อง และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รายได้ลดลง แต่รายจ่ายยังคงเท่าเดิม โดยนายชัชชาติ ได้เดินรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากว่าจะช่วยหาทางแก้ไข ซึ่งตลอดทางมีประชาชนมาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก