
AFP PHOTO / WANG ZHAO
ประเด็นคือ – เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกเล็งให้เป็น “ถังขยะ” ใบใหม่หลังจีนปิดประตูไม่รับขยะพลาสติกอีก
ชาติตะวันตกกำลังกุมขมับว่าจะทำยังไงดีกับขยะพลาสติกปริมาณมหาศาลซึ่งที่ผ่านมาสามารถผลักภาระส่งออกไปต่างประเทศในรูปของอุตสาหกรรมขยะรีไซเคิลและประเทศนำเข้ารายใหญ่ที่สุดคือ “จีน” แต่ล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศจะไม่ยอมเป็น “ถังขยะของโลก” อีกต่อไปโดยสั่งห้ามนำเข้าขยะ 24 ชนิดรวมทั้งพลาสติก PET กระดาษที่ไม่จัดประเภทและสิ่งทอบางชนิด มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงสาธารณสุข
ที่ผ่านมาขยะรีไซเคิลเกือบครึ่งหนึ่งของโลกไปอยู่ที่จีน เฉพาะปี 2558 ปีเดียวจีนนำเข้าขยะพวกนี้มากถึง 49.6 ล้านตัน เกือบครึ่งมาจากสหรัฐและ 85% ของขยะพลาสติกที่สหภาพยุโรปส่งออกมุ่งตรงไปที่จีน
Arnaud Brunet หัวหน้าสำนักงานรีไซเคิลระหว่างประเทศกล่าวว่า คำสั่งห้ามของจีนเป็นเหมือนแผ่นดินไหวที่ส่งแรงสะเทือนไปทั่วโลก ทำให้อุตสาหกรรมรีไซเคิลทั่วโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ขณะที่ Simon Ellin ผู้บริหารสมาคมรีไซเคิลของอังกฤษกล่าวว่า นี่เป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงต่อไปกันดี

AFP PHOTO / STR
เริ่มมีการมองหาประเทศอื่นที่จะสามารถรับส่วนที่จีนเคยรับไม่ว่าจะเป็นอินเดีย ปากีสถาน และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามข้อมูลของสำนักงานรีไซเคิลระหว่างประเทศ เมื่อปีที่แล้วเวียดนามนำเข้าเศษพลาสติกอัดก้อนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 550,000 ตัน รองลงมาคือมาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย
แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่าสุดท้ายแล้วหนทางเดียวที่จะรับมือประเด็นนี้คือบรรดาผู้ส่งออกขยะจะต้องทำระบบรีไซเคิลในประเทศตัวเองเพื่อลดการพึ่งพาชาติอื่น Simon Ellin จากสมาคมรีไซเคิลของอังกฤษแสดงความเห็นว่า ต้องเริ่มผลิตให้น้อยลงและผลิตสินค้าคุณภาพดีรีไซเคิลง่าย ขณะที่ Jean-Marc Boursier ประธานสหพันธ์จัดการของเสียแห่งยุโรปมองว่าคำสั่งห้ามของจีนอาจมีผลดีตรงที่ช่วยกระตุ้นให้ชาติต่าง ๆ หันมาสนใจพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลในประเทศตัวเอง
“การตัดสินใจของจีนทำให้เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า เราไม่คิดจะสร้างโรงงานรีไซเคิลและส่งออกสินค้าจากการรีไซเคิลแทนที่จะส่งออกขยะบ้างหรือ”
ที่มา Plastics Pile Up as China Refuses to Take the West’s Recycling China’s waste import ban upends global recycling industry JOURNEY TO THE WASTE: HAS THE WEST LEARNED ITS LESSON FROM CHINA’S PLASTIC BAN?