ชายคลั่งสิ้นฤทธิ์ ! นอภ.ใจเด็ด นำพวกบุกรวบ หลังอาละวาดทำร้ายชาวบ้านนานเกือบ 3 เดือน

ประเด็นคือ – หนุ่มคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สินชาวบ้านนานเกือบ 3 เดือน จนหลายครอบครัวต้องอพยพหนี ล่าสุดสามารถตะครุบไว้ได้แล้ว 

จากกรณีนายสม (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ชาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ชายสติไม่ดี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของ และร่างกายของญาติพี่น้อง ซึ่งเกิดปัญหาเรื้อรังมานานเกือบ 3 เดือน และไม่มีหน่วยงานใดเข้าให้การช่วยเหลือ จนญาติๆอย่างน้อย 4-5 ครัวเรือนเกิดความหวาดกลัว เพราะนายสมมีอาวุธปืน ทั้งที่เป็นปืนจริงๆ และประดิษฐ์ขึ้นเอง จนญาติๆ ต้องอพยพไปขออาศัยอยู่ที่อื่น

อีกทั้งสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง เพราะพอเวลาค่ำนายสมจะออกมาอาละวาด ทั้งข่มขู่ ชิงทรัพย์ อยากได้อะไรก็ไปฉกชิง ไปแย่งเขาไปทั่ว แม้จะแจ้งเจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีเพียงแวะเวียนมาดูเป็นครั้งคราวเท่านั้น

โดย นายกร จันทร์พุ่ม กำนันตำบลนาชุมเห็ด นายอุทัย พยัคพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.นาชุมเห็ด ญาติ และเพื่อนบ้าน ต่างพากันแจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง และ ตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ย. 60 อีกครั้ง แต่ทำได้เพียงการเฝ้าระวัง ต่อมา พ.ต.อ.ภวัต ประชาญสิทธิ์ ผกก.ย่านตาขาว พร้อมชุดสืบสวน สภ.ตร.ภ.จว.ตรัง ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมากำนันและผู้ใหญ่บ้านต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังกันเอง เนื่องจากเกรงว่านายสมจะออกมาอาละวาดทำร้ายชาวบ้านอีก

ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 60 นายศิริพล พิพัฒน์รัตนเสรี นายอำเภอย่านตาขาว หลังทราบเรื่องก็ลงพื้นที่ด้วยตนเองและเดินเท้าเข้าไปที่บ้านของนายสมบัติ โดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกทำร้าย เพื่อขอพูดคุย เจรจา และตะโกนเรียก แต่นายสมกลับไม่ขานรับ เเล้วเจ้าหน้าที่ก็บุกเข้าไปมัดตัวไว้ได้ แต่นายสมไม่ยอมออกจากบ้าน นั่งแคร่บริเวณชานบ้าน และที่อันตรายคือภายในบ้านมีตัวผึ้งเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่และญาติๆ ที่เข้าไปถูกต่อยไปหลายราย

นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ได้มีการหลอกล่อให้นายสมตายใจ จนสามารถล็อกกุญแจมือไขว้หลังได้ แต่นายสมรู้ตัวสามารถสลับกุญแจมือมาไว้ข้างหน้าได้ และวิ่งหนีเจ้าหน้าที่เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านอีกครั้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปรามปราม สภ.ย่านตาขาว นำกำลังมาสมทบและบุกเข้าไปจับตัวนายสมออกมาได้ และนำตัวส่ง รพ.ย่านตาขาวเพื่อทำการรักษาต่อไป สร้างความโล่งอกให้กับญาติๆ และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก จนบางคนบอกว่าจะย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านได้ดังเดิมสักที หลังจากต้องทิ้งบ้านไปนานนับเดือน