ชาวต่างชาติปีนสลิงอาคารผู้โดยสารชั้น 6 สุวรรณภูมิ ก่อนหล่นลงมา

ประเด็นคือ – ระทึกกลางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อชาวต่างชาติปีนสลิงอาคารผู้โดยสารชั้น 6 นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะห้อยตัวและหล่นลงมา เคราะห์ดีตกใส่เบาะลมที่ จนท.เตรียมรองรับ ล่าสุดปลอดภัยแล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นี่เป็นภาพวินาทีชีวิตของสาวชาวยุโรป ยังไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อกล้ามสีเทา กางเกงยีนขาสามส่วนสีน้ำเงิน สวมสายรัดสีต่างๆ ที่ข้อมือทั้งสองข้าง ได้ห้อยโหนตัวเองกับสลิงยึดโครงสร้างของอาคารผู้โดยสารบริเวณชั้นที่ 4 ตรงอาคารจุดชมวิวเครื่องบินภายในอาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวกับสายสลิง ก่อนจะห้อยโหนตัวเองอย่างหวาดเสียว สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก

จากนั้นไม่นานสาวคนนี้ได้ยกตัวเองสลับขึ้นไปเกี่ยวสายสลิงอีกครั้ง คล้ายกับการแสดงกีฬายิมนาสติก ก่อนจะหมดแรงพลัดตกหลังกระแทกเส้นสลิง และหล่นลงสู่เบาะลมด้านล่างที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้รอรับถึงสองชั้น โดยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยและทีมแพทย์ พยาบาล ของการท่าฯ ที่แสตนด์บายอยู่ด้านล่างก็เข้าให้ความช่วยเหลือทันทีก่อนจะเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติปีนสลิงบนหลังคาของอาคารผู้โดยสาร ตนเองและนางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 2 และทีมผู้บริหาร ได้รีบสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้เร่งจัดเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมกับเดินทางเข้าตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นหญิงสาวคล้ายทอม ชาวต่างชาติ คาดว่าจะเป็นชาวยุโรป แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสัญชาติอะไร ได้ปีนขึ้นไปไต่เกาะตามสลิงต่างๆ ของโครงสร้างตัวอาคารบริเวณชั้น 6 ด้วยความสูงจากพื้นประมาณ 20 เมตร

จึงสั่งการให้ใช้แผนรองรับมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยด่วน  โดยจัดทีมแพทย์ ทีมดับเพลิง และชุดกู้ภัยตัวอาคาร พร้อมกับเบาะลมจำนวน 2 ชุด เข้าเผชิญเหตุในครั้งนี้ โดยทีมเจรจาของการท่าฯ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการพูดคุย แต่ไม่เป็นผล

เคราะห์ดีที่ผู้ก่อเหตุท่านนี้ได้ปีนจากชั้น 6 ลงมายังชั้น 4 ทำให้ลดระดับความสูงจากพื้นได้มาก แต่จากการประเมินของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่า ไม่สามารถเข้าประชิดตัวหรือเข้าชาร์จได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงอาศัยจังหวะที่ผู้ก่อเหตุเริ่มหมดแรง จนกระทั่งพลัดตกลงมาใส่เบาะลมด้านล่างอย่างปลอดภัย ก่อนรีบเข้าช่วยเหลือ

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ก่อเหตุท่านนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นเดินอยู่บนทางด่วนย่านพระราม 4 เจ้าหน้าที่การทางพิเศษจึงนำตัวมาส่งยังตำรวจท่องเที่ยวภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พบเห็นก็เชิญตัวมายังห้องรับรอง พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามเบื้องต้น แต่ไม่สามารถสื่อสารกันได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุท่านนี้ไม่ยอมพูดจาอะไร จากการสังเกตพบว่ามีข้อความรอยสักที่แผ่นหลังคำว่า โอลิมปิก 2014 เจ้าหน้าที่จึงหาน้ำและอาหารให้รับประทานเพื่อผ่อนคลาย

จนกระทั่งมาช่วงสายของวันนี้ มีผู้พบเห็นว่าปีนขึ้นไปบนหลังคาแล้ว โดยหลังจากนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและดูแลอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสามารถสื่อสารกันได้ จะได้ประสานสถานทูตของประเทศนั้นเข้ามาดูแลต่อไป