ชาวนาร้อยเอ็ดระทม ! ฝนทิ้งช่วง ทำข้าวยืนต้นตายเกือบ 2 แสนไร่

ร้อยเอ็ดฝนทิ้งช่วงเร็วกว่าทุกปี นาข้าวกว่า 190,000 ไร่ ยืนต้นตาย จนชาวนาปล่อยวัวกิน บางส่วนไถทิ้ง เตรียมปลูกมันสำปะหลังแทน นอ.เร่งให้ความช่วยเหลือ

วันนี้ (17 ต.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสาร ทีลิ้นฟ้า (ชาวนาบ้านป่าดวน) ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ปีนี้ฝนทิ้งช่วงมาเร็วภัยแล้งจึงมาเร็วกว่าปกติ ทำให้นาข้าวของตนและของชาวนาคนอื่นๆ ในเขตตำบลดังกล่าวได้รับความเสียหาย ในขณะที่ข้าวกำลังตั้งท้องยังไม่ชูรวงก็ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ดั่งเช่นตนที่ทำนาปีนี้ 16 ไร่ เสียหายแทบจะทั้งหมด จนต้องไถทิ้งในขณะที่บางคนปล่อยวัวลงกินข้าวที่แห้งตาย และพากันเปลี่ยนอาชีพใหม่ปลูกพืชอย่างอื่นชดเชยเพื่อหารายได้เสริม เช่น การปลูกมันสำปะหลัง หรือปลูกอ้อยเพื่อหารายได้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะที่ นายตุลย์ ต้องเดช บ้านป่าดวน ตำบลลิ้นฟ้า เราว่าผลพวงจากภัยแล้ง ทำให้นาข้าว 15 ไร่ ได้รับความเสียหายเกินไปกว่าครึ่งจากการไม่มีน้ำ ต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่ ด้วยการไถนาข้าวทิ้งแล้วหันไปปลูกมันสำปะหลังแทน ให้เกิดรายได้ชดเชยความเสียหายจากการทำนา

ด้าน นายธรรมนูญ แจ่มใส นายอำเภอจตุรพักตรพิมาน เปิดเผยว่า จากการที่พื้นที่จตุรพักตรพิมานเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ค่าแนะนาของชาวบ้านในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว และออกรวง ได้รับความเสียหาย โดยตนได้ประสานกับเกษตรอำเภอ และปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ทำหนังสือประสานแจ้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรตำบลทำการตรวจสอบ พื้นที่ที่รับผลกระทบและเสียหาย ทั้งนาข้าว ละการทำการเกษตรที่ได้รับผลกระทบทุกด้าน เพื่อสรุปตัวเลขความเสียหายรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป ซึ่งจากการประเมินความเสียหายเบื้องต้นเท่าที่ทราบพื้นที่ทั้ง 12 ตำบล ของอำเภอจตุรพักตรพิมาน มีพื้นที่ทำนา 190,000 ไร่ ได้รับความเสียหายผลกระทบจากฝนทิ้งช่วงรุนแรง 3 ตำบล คือ ตำบลดู่น้อย, ตำบลลิ้นฟ้า, ตำบลอีง่อง และนอกนั้น อีกบางส่วนของบางตำบล ซึ่งล้วนแล้วแต่ติดพื้นที่ อำเภอปทุมรัตต์ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเช่นกัน ซึ่งหลังจากการเร่งสำรวจแล้วก็จะรีบรายงาน ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อทำแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการทำนาในครั้งนี้ตามระเบียบการช่วยเหลือของรัฐบาลเป็นการเร่งด่วนต่อไป