ชาวราชบุรีแห่ซื้อหนังสือพิมพ์และภาพในหลวง ร.9 เก็บเป็นภาพความทรงจำตราบนิจนิรันดร์

ชาวราชบุรีหาซื้อหนังสือพิมพ์และภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร. 9 พร้อมด้วยภาพ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ และภาพความทรงจำที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9

วันที่ 27 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ได้มีพิธีการลอยเถ้าดอกไม้จันทน์ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร เมื่อช่วงเช้าเวลา 08.30 น. ในแม่น้ำแม่กลองบริเวณเขื่อนรัฐประชาพัฒนาแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นภาพแห่งความโศกเศร้าและอาลัยของพสกนิกรชาวจังหวัดราชบุรีที่ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ

ทำให้ตลอดทั้งวันนี้ประชาชนต่างพากันเดินทางออกไปตามแผงจำหน่ายหนังสือพิมพ์และแผ่นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะประมวลภาพพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พระเมรุมาศ ตามที่หนังสือพิมพ์ได้ทำการตีพิมพ์และนำออกมาจำหน่ายในฉบับพิเศษ ทำให้หลายๆ ร้านไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย บางร้านมีการสั่งจองไว้ เนื่องจากต้องการเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำ ซึ่งราคาแต่ละฉบับก็จะมีความแตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ราคา ฉบับละ 10 บาท 30 บาท 40 บาท ไปจนถึง 80 บาท

นางชัญญา เรืองตระกูล ชาวจังหวัดราชบุรี ได้เผยถึงการที่ตนเองได้ออกมาเลือกซื้อหนังสือพิมพ์และวารสารที่มีการตีพิมพ์ภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลสงรัชกาลที่ 9 ว่า ตลอดระยะเวลาที่ทราบข่าวถึงการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนเองและครอบครัวต่างเศร้าโศกเสียใจ และเดินทางไปกราบพระบรมศพที่พระราชวัง และได้ไปร่วมในพิธีการรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 แทบทุกครั้ง

เนื่องด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรักพ่อหลวง จึงได้เดินทางไปตามแผงหนังสือต่างๆ โดยจะเลือกซื้อหลายๆ ฉบับ ที่มีการลงภาพพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดจนภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำไปเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ภาพความทรงจำ ที่ตนเองและครอบครัวได้เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9 หรือเกิดในแผ่นดินของพ่อ และจะเก็บภาพความทรงจำเกี่ยวกับพระราชพิธีและวันที่ 26 ต.ค. เอาไว้ในความทรงจำไปจนจวบชั่วชีวิต ทั้งนี้จนเองก็จะขอทำดีเพื่อพ่อหลวง ทำดีด้วยหัวใจเพื่อถวายและรำลึกถึงพระองค์ท่านตลอดไป

โดยเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในหลายๆ อำเภอของ จังหวัดราชบุรี รวมแล้ว 15 ครั้ง  โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ตลาดที่อำเภอบ้านโป่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2497 เวลาประมาณ 10.00 น. พร้อมด้วยสมุห์ราชองครักษ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์จากพระที่นั่งอัมพรสถานอย่างกะทันหัน โดยมิให้ใครรู้พระราชประสงค์ที่จะทรงไปเยี่ยมพสกนิกรที่ถูกเพลิงไหม้

ทั้งนี้เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมการต้อนรับอย่างเอิกเกริก เพราะประชาชนกำลังอยู่ในระหว่างเศร้าโศก เนื่องจากถูกเพลิงไหม้ทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยมีพระราชญาติรักษา ผู้ว่าราชการภาค 7 เข้าเฝ้ารับเสด็จ รถยนต์พระที่นั่งได้วนรอบบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ทรงทักทายถามทุกข์สุขผู้ประสบอัคคีภัยครั้งนี้โดยทั่วหน้ากัน พร้อมกับพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1 แสนบาท ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์และยังทรงพระราชทานเสื้อผ้า อาหาร ตลอดจนยารักษาโรค อีกส่วนหนึ่งด้วย ครั้นเมื่อเวลา 15.30 น. ได้เสด็จกลับกรุงเทพฯ ประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

และเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2518 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จากพระตำหนักเปี่ยมสุขพระราชวังไกลกังวล เพื่อทรงเยี่ยมราษฎร ณ บ้านคาและบ้านโป่งกระทิงล่าง ตำบลบ้านบึง กิ่ง อำเภอสวนผึ้ง อำเภอจอมบึง (ในขณะนั้น) โดยมีราษฎรเป็นจำนวนมากมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทรงมีพระราชปฏิสันถารอย่างใกล้ชิดกับบรรดาราษฎร

พระองค์ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสแก่นายเกษม กิติรุ่งรุช ปลัดอำเภอสวนผึ้งและนายดง บุญเลิศ ผู้ใหญ่บ้านโป่งกระทิงล่างในการให้ความช่วยเหลือราษฎร และสั่งให้สร้างแหล่งน้ำ หลังจากทีได้ทอดพระเนตรในแผนที่ ทรงมีพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย สามารถเก็บกักน้ำได้ 23.4 ลูกบาศก์เมตร ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนด้านอุปโภคบริโภค การเพราะปลูกจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นที่มา ของ VR009 ที่อำเภอสวนผึ้ง กิ่งอำเภอบ้านคา และเพชรบุรีเกิดเหตุวาตภัยฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีนักวิทยุสมัครเล่นอยากออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน และติดต่อเข้ามายังศูนย์สายลมเพื่อขอความช่วยเหลือ

ขณะนั้นพระองค์ท่านติดต่อเข้ามา เพื่อแนะนำวิธีที่ถูกต้องให้อาสาสมัครในการออกไปช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขปัญหาดังกล่าว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ราษฎรชาวจังหวัดราชบุรี