ชาวลำลูกการวมตัวร้องเรียนผู้ว่าฯ ขับไล่ กรมทางหลวงชนบท

ผอ.แขวงทางหลวงชนบทชี้แจงประเด็นถี่ยิบ หลังชาวบ้านขับไล่ พร้อมยื่นหนังสือถึง ผวจ.ปทุมธานี กรณีเดินสายไฟ ต่อท่อน้ำประปา และพื้นผิวถนนชำรุด มีน้ำขัง ถนนเป็นลูกคลื่น ทำให้ ปชช.เดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ค. 61) นายภาคภูมิ ผ่านสำแดง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท ปทุมธานี ได้ชี้แจงกรณีที่ชาวบ้านชุมชนบ้านมั่นคง เดินขบวนขับไล่และยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน

หลังจากที่ชาวบ้านชุมชนบ้านมั่นคง นำโดย นางอรทิพา รอดรัศมี ประธานชุมชนบ้านมั่นคง เป็นแกนนำยื่นหนังสือ พร้อมรายชื่อชาวบ้าน จำนวน 200 คน ที่เดือดร้อนจากการต้องการเดินสายไฟ ต่อท่อน้ำประปา รวมถึงพื้นผิวถนนชำรุด มีน้ำขังบางช่วง ถนนเป็นคลื่น ทำให้รถ จยย.มักเกิดอุบัติเหตุ โดยนายอำเภอลำลูกกาได้รับหนังสือเพื่อส่งต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด

ด้าน นายภาคภูมิ ผ่านสำแดง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่าชาวบ้านชุมชนบ้านมั่นคงได้ยื่นหลังสื่อถึง ผวจ.ปทุมธานี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน จึงขอชี้แจงดังนี้

1.ถนนหน้าเทศบาลตำบลลำลูกกา เดิมเป็นถนนในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลลำลูกกา เป็นถนนลาดยาง กว้าง 5-6 ม. ระยะทางประมาณ 2.750 กม. เนื่องจากเกินศักยภาพของเทศบาลที่จะดูแลก่อสร้างขยายผิวทาง เทศบาลตำบลลำลูกกาจึงได้ส่งมอบให้กรมทางหลวงชนบทมาดูแลตั้งแต่ปี 2555 และกรมฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างยกระดับมาตรฐานทางเป็นผิวทางกว้าง 7 ม. ไหล่ทางข้างละ 2.0 ม. รวมระยะทางประมาณ 2.4 กม. พร้อมทางจักรยาน เป็นถนนที่ได้มาตรฐาน ประชาชนเดินทางด้วยความสะดวกปลอดภัย ส่วนที่เหลืออยู่ประมาณ 350 ม. นั้นเป็นช่วงที่เขตทางแคบ ไม่สามารถดำเนินการขยายผิวทางได้  แขวงฯ ก็ได้บำรุงรักษาดูแลผิวทางให้เรียบ ไร้หลุมบ่ออยู่เป็นประจำ โดยได้ปูวัสดุแอสฟัลต์เสริมผิว รวมทั้งการแก้ไขซ่อมแซมหลุมบ่อทันทีหากพบความชำรุด ส่วนในกรณีที่ฝนตกมีน้ำท่วมขังไหล่ทางนั้น  ทางแขวงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตรวจสอบหาสาเหตุแล้วพบว่ามีบ้านเรือนอยู่สองข้างทางหนาแน่น มีการระบายน้ำลงท่อเดิมซึ่งเป็นท่อระบายน้ำที่ทางเทศบาลฯ วางไว้ ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จึงได้ประสานท้องถิ่นใกล้เคียงให้มาช่วยดูดเลน ลอกท่อร่วมกับ จนท. ของแขวงฯ อยู่เป็นประจำ ซึ่งล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ค.ก็ได้ดำเนินการลอกท่อ ดูดเลน ลงวัสดุเสริมข้างทางมิให้น้ำท่วมขังแล้ว ส่วนแผนงานในอนาคตก็จะสำรวจออกแบบเวนคืนที่ดินสองฝั่งเพื่อขยายผิวทางพร้อมวางท่อระบายน้ำใหม่ให้เป็นระบบแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

2. การวางท่อประปาในเขตทางนั้น หน่วยผู้เป็นเจ้าของโครงการจะต้องยื่นขออนุญาตก่อนดำเนินการ เพื่อให้ตรวจสอบแบบแปลนที่จะก่อสร้างก่อน โดยเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ ซึ่งแขวงก็ได้อนุญาตให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 60 และทางผู้รับจ้างก็ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2561

3. การปักเสาพาดสายในสายทางนั้น ทางแขวงยังไม่ได้รับเรื่องการขออนุญาตดำเนินการจากหน่วยใด ซึ่งก็ไม่ทราบว่าหน่วยใดรับผิดชอบเป็นเจ้าของเสาคอนกรีต หากเสาไฟฟ้าหักโค่น เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รวมทั้งประชาชนผู้ใช้ทางแล้ว หน่วยใดจะรับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในวันที่ 23 พ.ค. 61 จึงได้สอบถามผู้ที่กำลังปักเสาว่าหน่วยใดสั่งการให้ปักและได้รับใบอนุญาตหรือยัง ก็ไม่ได้รับคำตอบ จากนั้นผู้รับจ้างก็หยุดดำเนินการปักเสาแล้วก็ขับรถเครื่องจักรกลับไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 61 ทางการไฟฟ้าได้มาพบและรับเป็นเจ้าของงานแล้ว ซึ่งก็จะอนุโลมให้การไฟฟ้าดำเนินการต่อไปได้

4. กรณีถนนสายเลียบคลอง 7 ปัจจุบันอยู่ในระหว่างก่อสร้างขยายเป็นถนน 4 ช่องจราจร โดยผู้รับจ้างเข้าดำเนินการตามสัญญาตั้งแต่เดือน เม.ย. 60 หากพบผิวทางเดิมชำรุดก็ได้แจ้งประสานให้ผู้รับจ้างเข้าซ่อมแซมแก้ไขอยู่เสมอ เช่นกรณีผิวทางเป็นร่องล้อบริเวณทางเชื่อม ทล.3312 ก็ได้ประสานให้ผู้รับจ้างเข้าแก้ไข ไสผิวเดิมออกแล้วปูทับด้วยปูวัสดุใหม่ให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ ก.พ. 61

5. กรณีทางเชื่อมลงพื้นที่การเกษตร ในขณะก่อสร้างได้มีการเปิดทางลงให้กับเกษตรกรทุกรายแล้ว มิได้มีปัญหาการขึ้นลงเข้าออกพื้นที่นา แต่ปัญหาจะอยู่ที่รถเก็บเกี่ยวข้าวที่เป็นล้อเหล็กหรือล้อตีนตะขาบ ที่ทำให้ผิวทางชำรุด ซึ่งได้แนะนำให้เจ้าของรถมีการใช้วัสดุ เช่น ยางรถยนต์เก่ามารองก่อน เพื่อป้องกันมิให้ผิวทางชำรุด

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเจอถนนทางหลวงชนบทในจังหวัดปทุมธานีชำรุด ก็สามารถแจ้งโดยตรงที่เบอร์  ผอ. 08-1834-1489 หรือสายด่วน ทช. 1146 ด้วยความขอบพระคุณ