ชาวไต้หวันทำประชามติค้านแต่งงานเพศเดียวกันในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา และพรรค DDP ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ต่อต้านนโยบายจีนเดียวแพ้การเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา รัฐบาลได้หวันจัดให้มีการลงประชามติพร้อมกัน 10 หัวข้อ รวมถึงเรื่องการแต่งงานเพศเดียวกันซึ่งได้เสียงโหวตสนับสุนเพียง 3 ล้านเสียง แพ้เสียงสนับสนุนฝ่ายที่เรียกร้องให้มีการร่างพรบ.แยกที่ได้รับคะแนนถึง 6 ล้านเสียง และฝ่ายคัดค้านซึ่งต้องการให้คงการแต่งงานไว้ระหว่างชายหญิงที่ได้รับคะแนนมากที่สุดถึง 7 ล้านเสียง
“กลุ่มร่วมใจเพื่อความสุขของคนรุ่นหน้า” ประกาศว่าผลประชามติ คือ “ชัยชนะของผู้ที่เห็นคุณค่าของสถาบันครอบครัว” ส่วนกลุ่มหลากหลายทางเพศกล่าวว่าเสียใจที่รัฐบาลจัดให้มีการประชามติอีกรอบทั้งที่ศาลสูงสุดไต้หวันประกาศให้การแต่งงานเพศเดียวกันถูกกฎหมายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 แล้ว โดยจะบังคับใช้ในอีกสองปี แม้ประชามตินี้จะไม่ใช่ประชามติเพื่อชี้ขาด และไม่มีผลอะไรต่อการตัดสินที่ผ่านมาของศาล แต่กลุ่มหลากหลายทางเพศก็กังวลว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะใช้เรื่องนี้โจมตีเพื่อเดินหน้าริดรอนสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศต่อไปได้ เพราะเสียงโหวตไม่เห็นด้วยเกินกว่า 25% ทำให้รัฐบาลต้องรับเรื่องนี้ไปพิจารณา
พร้อมกันนี้ ในส่วนของผลการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ปรากฎว่าพรรคฝ่ายค้าน “กั๋วหมินตั๋ง” ซึ่งมีนโยบายรักษาความสัมพันธ์กับจีนชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นใน 15 เขต ขณะที่รัฐบาลได้เสียงส่วนใหญ่เพียง 6 เขตเท่านั้น เป็นผลให้ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันประกาศลาออกทันที
แถลงการณ์ของสำนักงานนโยบายความสัมพันธ์จีนแห่งไต้หวันที่ประกาศผ่านสื่อรัฐบาลระบุว่า “ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นเจตจำนงของประชาชนไต้หวันที่ต้องการให้ดำเนินความสัมพันธ์กับจีนอย่างสงบเรียบร้อย เพื่อความเจริญทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีของประชาชน”
โดยที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลพรรค DPP ส่งผลให้รัฐบาลจีนเพิ่มมาตรการกดดันไต้หวันอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการทหารและส่งเสริมให้ภาคเอกชนจากนานาชาติระบุในเว็บไซต์ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ก่อนหน้านี้ไช่อิงเหวินและรัฐบาลไต้หวันก็กล่าวหาจีนว่าเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งด้วยข่าวลวง รัฐบาลจีนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว