ประเด็นคือ – ญาติผู้เสียชีวิต 14 ศพ จากอุบัติเหตุรถตู้ชนรถบรรทุกที่จังหวัดสิงห์บุรี ทยอยเข้ารับศพแล้ว ขณะที่นิติเวชตำรวจทำการชันสูตรครบทุกศพ พร้อมให้การช่วยเหลือเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
วันที่ 25 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้ชนรถสิบล้อและถูกไฟคลอกเสียชีวิต 14 ศพ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ บนถนนสายเอเชีย อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ทยอยเข้าติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา
นายโย่ริน ชาวเมียนมา ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเป็นญาติของนายอูไน หนึ่งในผู้เสียชีวิต ทราบข่าวนี้จากสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีอุบัติเหตุ ซึ่งหลังทราบข่าวได้พยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อใดๆ ได้ ตั้งแต่ช่วงประมาณ 1 นาฬิกา โดยนายอูไนเพิ่งเดินทางกลับไปร่วมพิธีศพของบิดาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่วนวันที่เกิดเหตุทราบว่าได้ขึ้นรถจากที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จ่ายค่าโดยสาร 650 บาท ซึ่งเป็นรถที่รับส่งแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมาย เพื่อกลับไปทำงานกรีดยางที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สำหรับการอำนวยความสะดวกให้การช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 14 คน สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งจุดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตที่จะเข้ามาติดต่อรับศพ ที่บริเวณชั้น 1 ของสถาบันนิติเวชฯ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเอกลักษณ์ โดยขณะนี้แพทย์ได้พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล และหาสาเหตุการเสียชีวิตได้เสร็จสิ้นแล้ว
โดย พันตำรวจเอก สุพิไชย ลิ่มศิวะวงค์ นายแพทย์สัญญาบัตร 5 หัวหน้ากลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า จากการชันสูตรพลิกศพทั้งหมด พบเป็นชาย 7 คน หญิง 7 คน โดย 11 ศพ เสียชีวิตจากการสำลักควันและขาดอากาศหายใจ ขณะที่ 3 ศพที่เหลือ พบมีอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง และทราบชื่อจากพนักงานสอบสวนเพียงคนเดียว คือ นายปฐมพันธ์ พันธ์ผล ซึ่งเป็นคนขับรถตู้โดยสาร
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต้องมีการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลด้วยการเก็บดีเอ็นเอจากญาติที่มีสายเลือดใกล้ชิด เช่น บิดา มารดา บุตร พี่น้อง นำไปตรวจเปรียบเทียบยืนยัน จะใช้เวลา 2 วัน ก่อนอนุญาตให้รับศพกลับไปได้
ขณะที่ พันตำรวจเอก วาที อัศวุตมางกูร นักวิทยาศาสตร์ สัญญาบัตร 5 หัวหน้ากลุ่มงานตรวจเลือดชีวเคมี เปิดเผยว่า หากญาติของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศและไม่สะดวกเดินทางมาตรวจพิสูจน์ ก็สามารถประสานงานผ่านสถานทูตให้เก็บดีเอ็นเอส่งมาให้สถาบันฯ เปรียบเทียบ หากทราบผลก็จะแจ้งให้กลับไปดำเนินการรับศพต่อไปได้ คาดว่าการติดต่อรับศพทั้ง 14 ราย จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะเสร็จสิ้น