ญาติรับศพสาวใหญ่ เก๋งตกท่อระบายน้ำดับ โวยยังไม่มีใครรับผิดชอบ

ประเด็นคือ – สามี และญาติ รับศพสาวใหญ่ หลังประสบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง ตกลงสถานที่ก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำ โวยยังไม่มีผู้รับเหมาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือ ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด

จากกรณีเหตุการณ์ น.ส.กานต์สิริ เฮงพูลสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสันมาร์ช สีส้ม ทะเบียน กธ -3796 นครศรีธรรมราช เสียหลักลอยละลิ่วตกลงไปในหลุมสถานที่ที่กำลังท่อระบายน้ำลอดใต้ถนนสายเบญจมะฯ – นาพรุ เลนขวา ฝั่งขาออกเมือง หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเช้ามืดวันที่ 11ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้นางจรรยา มาศสุวรรณ อายุ 45 ปี เพื่อนสาวที่นั่งมาด้านข้างเสียชีวิตคาที่ทันที ส่วน น.ส.กานต์สิริ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสะเพร่าของผู้รับเหมาก่อสร้างและหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ ที่ติดตั้งสัญญาณไฟและป้ายเตือนไม่ชัดเจนจน ทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว

โดยผู้รับเหมาคนหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะทางผู้รับเหมาได้ติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนและไฟสัญญาณเตือนทุกจุดไว้แล้วตามมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว แต่ก่อนเกิดเหตุก่อนหน้าที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะเสียหลักพุ่งลงที่ก่อสร้าง  ได้มีรถยนต์คันหนึ่งชนป้ายเตือนและชนไฟสัญญาณเตือนจนพังเสียหาย ไฟสัญญาณจึงดับมืดมิด ทำให้รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุมองไม่เห็นว่ามีการก่อสร้าง จึงพุ่งตกลงไปในหลุมที่กำลังก่อสร้างท่อระบายน้ำลอดใต้ถนน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ต.ค.60 เวลา 11.00 น. นายประยูร มาศสุวรรณ อายุ 53 ปี สามีของนางจรรยา มาศสุวรรณ ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติ จำนวนหนึ่ง เดินทางรับศพนางจรรยา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก หลังจากนี้จะนำศพของนางจรรยา ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และกำหนดฌาปนกิจศพวันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.60 ที่วัดยวนแหล

โดย นายประยูร กล่าว่า ตนและญาติ ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิด ก่อนเกิดเหตุภรรยา พร้อมด้วย น.ส.กานต์สิริ เฮงพูลสวัสดิ์ เพื่อนที่ทำงาน กำลังเดินทางไปทำงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนที่ภรรยา จะประสบอุบัติเหตุ ตนขับรถไปส่งภรรยา ที่บ้านของน.ส.กานต์สิริ เฮงพูลสวัสดิ์ เพื่อนที่ทำงาน หลังจากนั้นไม่นานทราบข่าวว่าภรรยา ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต

หลังเกิดเหตุการณ์ตนยังไม่รับการติดต่อหรือช่วยเหลือจากผู้รับเหมาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างท่อลอดระบายน้ำดังกล่าว หลังจากงานบำเพ็ญกุศลศพของภรรยา เสร็จสิ้น ตนจะดำเนินการยื่นฟ้องผู้รับเหมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อหาปล่อยประละเลยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ที่จริงหากผู้รับเหมาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการดูแลติดตั้งสัญญาณไฟเตือนให้มีความชัดเจนหรือแข็งแรงมั่งคงกว่านี้ เหตุการณ์ความสูญเสียก็จะไม่เกิดขึ้นกับภรรยาของตน

ขณะที่ นายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวง นครศรีธรรมราช ที่ 1 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการก่อสร้างท่อเหลี่ยมระบายน้ำ เป็นโครงการที่สืบเนื่องจากพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประสบอุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดเกิดเหตุเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.60 ก่อนก่อสร้างจะมีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางทราบตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค.60

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุวิสุดวิสัย ที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ตนขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ก็ไม่ได้นิ่งดูดายแต่อย่างใด ยืนยันว่าจะดูแลผู้บาดเจ็บ และญาติผู้เสียชีวิต ตามหลักมนุษยธรรม

ส่วนการดำเนินการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดก่อสร้าง ทางแขวงทางหลวงจะนำป้ายสิ่งกีดขวาง ป้ายสัญญาณเตือน และป้ายไฟสัญญาณ เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมให้เกินมาตรฐานของกรมทางหลวง และเพิ่มกองทรายก่อนถึงจุดก่อสร้างเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น อย่าไรก็ตามก็มีเสียงวิพากวิจารย์ ว่าทำไม่ไม่มีการนำแท่งแบริเออคอนกรีต มาวางป้องกันก่อนถึงจุดก่อสร้าง อยากให้เข้าใจว่าแท่งแบริเออคอนกรีตนั้น หากนำมาวางกั้นบนถนน อาจเสี่ยงที่จะเกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ เพราะหากมีรถจักยานยนต์หรือรถยนต์เล็กเสียหลักพุ่งชนแท่งแบริเออคอนกรีต เพราะแท่งแบริเออ ไม่สามารถยืดหยุ่นแรงปะทะการชนได้

อ่านข่าวย้อนหลัง : คืบหน้า สาวใหญ่ขับเก๋งตกท่อระบายน้ำ ! ผู้รับเหมาเผย เป็นเหตุสุดวิสัย จากอุบัติเหตุซ้ำซ้อน